สารช่วยห้ามเลือด เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจ ของหลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังมีข้อมูลที่ผิดพลาดมากมาย ในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ซึ่งเราได้รวบรวมและนำเสนอในบทความนี้ครับ ผู้ผลิตอุปกรณ์ห้ามเลือด ยี่ห้อที่เรารู้จักกันดี คือ Quikclot (Gen 1) เป็นผงห้ามเลือดรุ่นแรกๆ ที่เมื่อผลิตออกมาถือว่าเป็นสารห้ามเลือดรุ่นใหม่ เรียกได้ว่าทันสมัย และมีใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ตามรายงานการวิจัยในปี 2003 ระบุว่ามันใช้งานได้ผลดี และได้ผ่านการรับรองให้ใช้ในหน่วยทหารของกองทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการในประเทศอริคและอัฟกันนิสถาน
หลังจากนั้นมา ก็มีสารห้ามเลือดแบบอื่นๆผลิตขึ้น บางชนิดก็ได้ผล บางชนิดก็มีปัญหาจนเลิกผลิตไป สารห้ามเลือดเหล่านี้ มีหลักการทำงานที่อธิบายง่ายๆคือ มันจะช่วยเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้เส้นเลือดเกิดการแข็งตัว แต่จะให้ได้ผลชัดเจน จะต้องสัมผัสกับเส้นเลือดใหญ่โดยตรง ซึ่งความดันในเส้นเลือดนั้นมีสูง และถ้าไม่สัมผัสให้โดนเส้นเลือดจริงๆ ประสิทธิภาพในการห้ามเลือดจะลดลง หรือไม่ได้ผลเต็มที่
สารห้ามเลือดในรูปของแผ่นห้ามเลือด ถูกผลิตออกมาหลังจากผงห้ามเลือดมีใช้งานอย่างแพร่หลาย บางยี่ห้อใช้ไคโตซาน(สารสกัดจากเปลือกนอกของสัตว์ เช่น เปลือกหอย, ปู หรือกุ้งฯ) เป็นสารตั้งต้น ซึ่งอาจมีความเสี่ยง หากผู้บาดเจ็บแพ้อาหารทะเล โดยทำออกมาในลักษณะแผ่น เช่น ยี่ห้อ Hemcon, Sea Shell ซึ่งนำมาใช้งานในภาคสนามได้ยาก เพราะในการสัมผัสกับเส้นเลือดใหญ่ได้นั้น ผู้ใช้จะต้องหักออกเป็นชิ้นๆ และกดแผ่นที่หักนั้นลงให้ตรงจุดที่เส้นเลือดใหญ่ฉีกขาด ซึ่งต้องทำในสภาพแวดล้อม อย่างในโรงพยาบาลจึงจะเหมาะสม อย่าลืมว่าการใช้งานแผ่นห้ามเลือดเหล่านี้ ต้องสัมผัสให้โดนเส้นเลือดใหญ่จริงๆ และต้องออกแรงกดไว้อย่างน้อย 5 นาที
ดังนั้นสารห้ามเลือดรุ่นล่าสุด จึงมีการพัฒนาให้บรรจุอยู่ในรูปแบบของผ้าก็อซ เพื่อให้ได้ผลดี และใช้ในงานภาคสนามได้ทันที ผ้าก็อซที่บรรจุสารห้ามเลือด จึงถูกผลิตขึ้นเพื่อให้เอื้อต่อการใช้งาน ที่ผู้บาดเจ็บยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตราย โดยสามารถกดลงบนบาดแผลได้ง่ายกว่า สารห้ามเลือดในรูปแบบอื่นๆ สารห้ามเลือดแบบผงนั้น จะต้องเทลงบนบาดแผล แล้วจึงเอาผ้าพันแผลมาพันหรือกดทับลงไป ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกัน 2 ชนิด หากใช้งานในระหว่างที่ทหารถูกปะทะ ภายใต้สภาวะกดดันในสนามรบ และเสี่ยงต่อความเป็นความตาย การใช้ผงห้ามเลือดหรือแผ่นห้ามเลือด จะเป็นการยากต่อการปฏิบัติ
ในปัจจุบันกองท้พสหรัฐฯ (US Military) ได้บรรจุ QuikClot Combat Gauze ให้เป็นสารห้ามเลือดชนิดเดียว ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานกับทหาร Combat Gauze ออกมาแก้ปัญหาเดิมของผลิตภัณฑ์ QuikClot ในรุ่นแรกๆอย่างสิ้นเชิง โดยในรุ่น Gen 1 ของ Quikclot ของเดิมนั้น อยู่ในรูปของผงห้ามเลือด และเมื่อสัมผัสกับแผลจะเกิดความร้อน และผงดังกล่าวอาจปลิวเข้าตา และทำอันตรายต่อดวงตา ไม่เหมาะจะใช้งานโดยเฉพาะการนำส่งผู้บาดเจ็บทางอากาศยาน ออกจากจุดเกิดเหตุ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อดวงตานักบินได้
QuikClot รุ่นแรกๆในรูปแบบผงห้ามเลือดนั้น ใช้ผงแร่ ‘Zeolite’ ในการผลิตผงห้ามเลือด (เราอาจจะเคยเห็นภาพการใช้งาน จากหนังเรื่อง Shooter ซึ่งเป็นการเทลงบนแผล โดยไม่มีการกด บอกเลยครับว่า ดูหนังเอาสนุกได้ครับ แต่นั่นเป็นการใช้งานผิดวิธี อย่าลอกเลียนแบบนะครับ), ในรุ่นที่สอง QuikClot ACS+ ได้เปลี่ยนมาเป็นผง ที่มีอนุภาคใหญ่ขึ้น และบรรจุผงนั้นไว้ใน “ถุงตาข่าย” แทนที่จะบรรจุลงซองเพียงอย่างเดียว โดยใช้ถุงนี้เป็นตัวกดลงบนแผลให้แน่นยิ่งขึ้น, ในรุ่นที่สาม QuikClot Combat Gauze ซึ่งเป็นการนำสารเร่งการแข็งตัวของเลือด ‘Kaolin’ มาบรรจุลงบนผ้าก็อซ ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการห้ามเลือดได้ดี เท่ากับผงห้ามเลือด แต่ไม่ทำปฏิกิริยาความร้อน และไม่ส่งผลข้างเคียงในการใช้งาน QuikClot Combat Gauze จึงมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผ่านการอนุมัติให้ใช้อย่างแพร่หลาย ในกองทัพสหรัฐเพื่อการห้ามเลือดจากเส้นเลือดใหญ่อยู่ในขณะนี้
QuikClot Combat Gauze รุ่นใหม่ บรรจุในซองสูญญากาศ และมีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถเก็บในกระเป๋าอุปกรณ์ปฐมพยาบาลประจำบุคคลได้อย่างไม่เทอะทะ ไม่ต้องกลัวหักแบบแผ่นห้ามเลือด หรือเป็นผงปลิวเลอะเทอะในระหว่างใช้งาน แบบผงห้ามเลือด ผ้าก็อซเรียงตัวกันแบบพับทบตัว Z จึงไม่จำเป็นต้องแกะก็อซออกจากม้วนก่อน แล้วจึงกดลงในบาดแผล ทำให้สามารถฉีกซองพร้อมใช้งานได้รวดเร็วทันที
และเนื่องจากต้องกดและสัมผัสลงในบาดแผล QuikClot Combat Gauze ยังมีแถบสีแสดงผลในฟิล์มเอ๊กซเรย์ เพื่อช่วยให้การล้างทำความสะอาดแผลได้อย่างหมดจดและปลอดภัย เมื่อผู้บาดเจ็บถูกส่งถึงโรงพยาบาล จึงไม่มีโอกาสที่ก็อซจะตกค้างอยู่ในแผลในระหว่างการผ่าตัด
QuikClot Combat Gauze ผ่านการอนุมัติจาก FDA องค์การอาหารและยา ทั้งในประเทศอเมริกาและ FDA ประเทศไทย วางจำหน่ายแล้วที่ Safe House ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาติโดยตรงจากผู้ผลิตครับ เพื่อความปลอดภัยของท่าน โปรดตรวจดูวันหมดอายุของอุปกรณ์ การเก็บรักษาที่ถูกวิธี และในอุณหภูมิที่เหมาะสม หรือซื้อจากตัวแทนจำหน่าย ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพสินค้าได้ เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์เป็นของใหม่ และปลอดภัยต่อการใช้งานครับ
หวังว่าข้อมูลของสารห้ามเลือดรุ่นใหม่นี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ให้สามารถเลือกใช้อุปกรณ์เพื่อช่วยชีวิตคุณและคนที่คุณรัก ได้อย่างปลอดภัยครับ