fbpx

Posts Tagged aquamira

In Stock Now !!!

May 11

Posted by safehouse in In Stock | Comments off

อัพเดทสินค้าเข้ามาใหม่หลายๆรายการ ซึ่งสินค้าชุดนี้มีหลายรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงแพ็คเก็จครับ ทำให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นและในบางตัวสินค้าก็มีการพัฒนาคุณภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสินค้าใหม่ๆที่มีเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับหลายๆท่านที่สอบถามกันเข้ามาครับ สนใจสอบถามหรือสามารถเข้ามาชมสินค้าได้ทุกวันที่ SafeHouse ตั้งแต่ 10.00 – 19.00 น. ครับ

     Schrade Titanium Prybar Tool – ชะแลงจิ๋วจาก Schrade

     ไฟฉาย Micro-Light II จาก Photon – ไฟฉายติดพวงกุญแจ ที่ให้ความสว่างสูงและมีขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา

     ไฟฉาย Freedom Micro Light จาก Photon – ไฟฉายติดพวงกุญแจ ที่มาพร้อมคลิปหนีบหมวก

     หลอดกรองน้ำ Frontier จาก Aquamira – หลอดกรองน้ำฉุกเฉิน ใช้งานง่าย กะทัดรัด น้ำหนักเบา และสะดวกพกพา

     ตัวเจาะกระจก ResQme – ตัวตอกกระจกฉุกเฉิน มาพร้อมใบมีดสำหรับตัดเข็มขัดนิรภัย Safety belt

      คาราบิเนอร์ พลาสติก รุ่น Tactical Link จาก ITW – ห่วงเกี่ยวสารพัดประโยชน์ รับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม

      ห่วงเกี่ยว Grimlock – ใช้เกี่ยวยึดกับระบบ Molle ของเสื้อเกราะ, กระเป๋า เพื่อแขวนถุงมือ และอุปกรณ์ต่างๆ

      Boker Plus Urban Survival – มีดพับรูปทรงเก๋ๆอเนกประสงค์พร้อมตัวตอกกระจก

      Boker Plus Subcom – มีดพับขนาดเล็กยอดนิยมจาก Boker

     Cold Steel Urban Pal – push knife ขนาดเหมาะมือ จาก Cold Steel

     Cold Steel Mini Pal – push knife ขนาดจิ๋ว สดวกพกพา ความยาวยาวรวมเพียง 7 ซม.กับน้ำหนักเพียง 0.5 เท่านั้น

     ESEE-5 OD Green – มีดเดินป่า ขนาด ใบมีด 5 นิ้ว มาพร้อมกับความหนาของใบมีดถึง 0.25 นิ้ว หนาที่สุดของ ESEE ก็ว่าได้

     Karambit รุ่น C.U.B. Master 2 จาก 5.11 – มีดคารัมบิต จากผลงานการออกแบบโดย Steve Tarani

     ขวาน Wetterling – ขวานชั้นยอดจากสวีเดน

Tags: , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,

Frontier Pro Military หลอดกรองน้ำ ลุยทุกสนาม

Sep 18

Posted by safehouse in Review, Survival | Comments off

อุปกรณ์ที่มีมาให้ในชุด

อุปกรณ์ที่มีมาให้ในชุด

“น้ำ”  โดยปกติแล้วในร่างกายของคนเรานั้น มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 2 ใน 3 ส่วน และอวัยวะสำคัญต่างๆก็ล้วน แต่มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก เซลล์ทุกเซลล์ ระบบเลือด น้ำเหลือง ปัสสาวะ น้ำลาย ฯลฯ ล้วนแต่ต้องการน้ำ เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายขาดน้ำ ความสามารถในการถ่ายเทความร้อนก็จะลดลง โดยปกติความร้อนในร่างกาย จะระบายออกทางผิวหนัง เช่น เมื่อเราเล่นกีฬา ความร้อนจะระบายออกเป็นเหงื่อ เมื่อร่างกายมีน้ำไม่เพียงพอ สมองก็จะเริ่มทำงานผิดปกติ ผู้ที่ขาดน้ำอย่างรุนแรง จะมีอาการที่เรียกว่า Heat Stroke หรืออาการที่ร่างกายไม่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว

ในภาวะปกติแน่นอนว่า เราสามารถที่จะหาน้ำสะอาดๆดื่มได้ไม่ยากครับ เช่น เมื่ออยู่บ้านก็แค่เปิดตู้เย็น หรือเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ก็มีขายเต็มไปหมด แต่ถ้าเป็นภาวะที่ไม่ปกติ เช่น น้ำท่วม, ภัยธรรมชาติ, เดินทางไกลไม่มีร้านค้า หรือกำลังหลงทางก็ตาม การหา “น้ำสะอาด” ที่จะใช้ดื่มก็จะเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที และในภาวะฉุกเฉินแบบนั้น เราคงต้องพึ่งตัวเองเป็นอันดับแรกครับ เพราะกว่าความช่วยเหลือจะเข้าถึงพื้นที่ได้ ก็ไม่แน่ว่าเราจะรอได้หรือไม่ หรือแม้แต่คิดว่าจะขอความช่วยเหลือจากที่ไหน

Bite Valve หรือส่วนที่ใช้ปากกัดเพื่อดูดน้ำ

Bite Valve หรือส่วนที่ใช้ปากกัดเพื่อดูดน้ำ

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นอยู่เสมอ ก็คือในการลาดตระเวนระยะไกล หรือการเดินเท้าลาดตระเวนในป่า ของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ คือ การแบกน้ำดื่มเข้าป่าทีละหลายๆขวด ซึ่งการแบกน้ำไปด้วยนั้น นอกจากจะทำให้เป้หนักมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เดินได้ช้า และอาจเกิดอุบัติเหตุจากการบรรทุกสัมภาระ ในขณะที่ต้องปีนป่ายได้ง่าย รวมถึงยังเหนื่อยเร็วขึ้นอีกด้วย นี่ยังไม่นับรวมถึงหลังและเอว จะต้องรับน้ำหนักของน้ำและอุปกรณ์ที่นำพาไปด้วยอีก ซึ่งต่อคนนั้นอุปกรณ์ประจำตัว จะมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 กก. ทำให้ทั้งปวดหลังและกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนที่ภารกิจจะสำเร็จด้วยซ้ำ แม้ว่าท่านจะต้องฝึกความอดทน แต่การมีอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ การจัดการน้ำดื่ม เป็นเรื่องง่ายขึ้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมการทำงานให้ดีขึ้น

เพราะในยามที่ต้องพึ่งตนเองในการหา “น้ำดื่มที่สะอาด” ผมจึงอยากแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กรองน้ำประจำตัว Aquamira Frontier Pro Military หลอดกรองน้ำแบบพกพา ซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุดครับ เนื่องจากมีความสามารถในการกรองน้ำได้มาก ในขนาดที่เล็กเท่าฝ่ามือ และน้ำหนักเบาเพียง 56 กรัม ทำให้พกพาไว้ในกระเป๋าเดินทาง, เป้ หรือกระเป๋ากางเกงได้ โดยไม่สร้างภาระในเรื่องของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเลย และยังมีโครงสร้างที่ทนทาน ออกแบบมาเฉพาะเพื่อพร้อมใช้งานในภาคสนามซึ่งมีสภาพแวดล้อมรุนแรงอีกด้วย

ในยามจำเป็น Frontier Pro military สามารถกรองน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้

ในยามจำเป็น Frontier Pro military สามารถกรองน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้

ในการกรองน้ำจากขวดน้ำดื่ม ขั้นแรกผมลองใช้ Frontier Pro Military ต่อตรงเข้ากับขวดน้ำทั่วๆไปครับ ขนาด 28 มม. มีเกลียว 3 ชั้น  โดยการหมุนชุดสำหรับต่อ เข้ากับถุงน้ำที่อยู่ตรงปลายสุดของหลอดออกก่อน แลัวหมุนเกลียวต่อกับขวดน้ำที่นำมาทดลอง ปรากฏว่าสามารถหมุนเข้าได้อย่างดาย แทบไม่ต้องออกแรงอะไรเลย แต่ถ้าเป็นขวดน้ำที่มีเกลียว 1 ชั้น จะไม่สามารถหมุนเข้าได้นะครับ เพราะจำนวนเกลียวจะไม่พอดี

หลังจากนั้นก็ลองดูดน้ำผ่านหลอดกรองนี้ดู ก็สามารถดูดได้ครับ แต่ต้องออกแรงดูดซักหน่อย หรือถ้าต้องการต่อเข้ากับถุงน้ำ ก็ทำได้ไม่ยากครับ เพราะ Frontier Pro Military จะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า UQC (Universal Quick Connect) ซึ่งมีลักษณะเป็นจุกยางสีดำอยู่ที่บริเวณปลายล่างสุดของหลอด โดยผมจะลองต่อเข้ากับถุงน้ำของ Camelbak แต่ก่อนที่จะต่อเข้าไป ต้องถอดตัว UQC ออกก่อนนะครับ จึงจะสามารถต่อเข้ากับถุงน้ำของ Camelbak ได้ ส่วนถุงน้ำของ Nalgene และ Source ไม่จำเป็นต้องถอด UQC ออกครับ สามารถใส่เข้าไปได้เลย  หรือสามารถใช้หลอดพลาสติกยาว 8 นิ้ว ที่แถมมาให้ในชุด ต่อเข้ากับหลอดกรอง แล้วดื่มน้ำจากเเหล่งน้ำที่เราพบได้โดยตรงเลย ก็สามารถทำได้ครับ

วิธี Gravity Filter หรือการกรองน้ำโดยใช้แรงโน้มถ่วง

วิธี Gravity Filter หรือการกรองน้ำโดยใช้แรงโน้มถ่วง

ที่นี้ก็มาถึงวิธี gravity filter หรือการกรองน้ำโดยใช้แรงโน้มถ่วงครับ โดยการนำเอาถุงน้ำ ต่อเข้ากับหลอดกรองน้ำ ถอดจุกยางสีดำบริเวณวาล์วน้ำสำหรับดูดออก (ตรงที่เราใช้ปากกัดตอนดูดน้ำนั่นล่ะครับ) ถอดออกได้เลย แล้วนำไปแขวนไว้บนที่สูง เช่น กิ่งไม้ เพื่อให้น้ำไหลลงผ่านหลอดกรองน้ำ ไปยังภาชะเก็บน้ำที่เราเตรียมไว้ โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย

แต่วิธีนี้จะได้น้ำที่กรองทีละนิด และใช้เวลานานครับ เพราะน้ำจะค่อยๆไหลผ่านตัวกรองอย่างช้าๆ เช่น หากต้องการใช้น้ำ 1 ลิตร จะใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นวิธีนี้ จึงเหมาะสำหรับเมื่อคุณไม่ต้องการน้ำอย่างเร่งด่วน เช่น แขวนไว้ในเต้นท์ก่อนนอน เพื่อให้กรองน้ำได้หมดในตอนเช้า แต่ถ้าต้องการน้ำสะอาดไว้ดื่มทันที ก็ให้เลือกเอาภาชนะสำหรับใส่น้ำ ที่คุณสามารถบีบได้ เช่น ถุงน้ำ หรือขวดน้ำขนาดกลางๆ มาสวมตัวกรองจะดีกว่าครับ เพราะเราจะสามารถบีบ เพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำให้เร็วขึ้นได้ แม้จะไม่มากนักแต่ก็เร็วกว่า การใช้วิธี gravity filter ครับ

ไส้กรองของ Frontier Pro Military สามารถกรองน้ำได้ มากกว่า 190 ลิตรต่อไส้กรอง 1 อัน แถม Aquamira ยังให้ไส้กรองสำรองมาอีก 4 อัน นั่นหมายความว่า เราจะสามารถกรองน้ำได้ ถึง 760 ลิตรเลยทีเดียว เรียกว่าใช้งานได้นานเป็นปีครับ (ปกติคนเราดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร) โดยจะกรองได้ทั้ง โปรโตซัว, แบคทีเรีย, ไข่แมลงวัน, ไข่ยุง หรือสารแขวนลอยอื่นๆ โดยเฉพาะโปรโตซัว ชนิดไกอาร์เดีย (Giardia) ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคท้องร่วงได้ และหลังจากใช้งานแล้วทุกครั้ง ควรที่จะนำเอาไส้กรองออกมาตากแดด เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก ที่ถูกไส้กรองดักไว้ครับ

(ซ้าย) น้ำในแก้วผ่านการกรองจาก Frontier Pro military (ขวา) น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ

(ซ้าย) น้ำในแก้วผ่านการกรองจาก Frontier Pro military (ขวา) น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ

โดยรวมแล้ว Frontier Pro military นับว่ามีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง และใช้งานง่าย สามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ได้หลายๆแบบ ทำให้สามารถปรับใช้ ร่วมกับอุปกรณ์ที่เรามี หรือหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำพลาสติกที่ขายกันทั่วๆไป หรือถุงน้ำสำหรับพกพา เพื่อดื่มในระหว่างเดินทาง หรือจะใช้หลอดดูดน้ำจากแหล่งน้ำโดยตรงหากจำเป็น (ควรใช้ร่วมกับคลอรีนไดออกไซด์ชนิดเม็ด Aquamira ของ McNett) เช่น แม่น้ำ, ลำธาร, น้ำคลอง ก็ทำได้ครับ แต่ก็ควรเลือกแหล่งน้ำ ที่แน่ใจว่าไม่มีสารเคมี หรือมูลสัตว์เจือปนนะครับ เพราะการกรองด้วย Frontier Pro Military เพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถกรองสารเคมี และเชื้อโปรโตซัว Cryptosporidium ที่มากับของเสียจากสัตว์ได้ครับ

การดูดน้ำผ่านหลอดกรอง น้ำไหลผ่านตัวกรอง จึงต้องออกแรงดูดซักหน่อยครับ ส่วนรสชาติและสีของน้ำ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แต่ก็คงไม่ถึงกับใสปิ๊ง เหมือนน้ำดื่มบรรจุขวด ซึ่งกรองจากเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ แต่น้ำที่กรองแล้ว ก็ทำให้คุณสามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะในกรณีที่เจอแหล่งน้ำ ที่สงสัยว่ามีเชื้อโรคล่ะก็ นอกจากการใช้ Frontier Pro Military แล้ว ผมแนะนำให้ใช้เม็ดยาฆ่าเชื้อ สำหรับน้ำดื่ม Aquamira Water Purification ร่วมด้วย เพื่อใช้งานร่วมกัน เพื่อช่วยให้น้ำที่ได้ ปลอดภัยปราศจากเชื้อโรคครับ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และเป็นเจ้าของหลอดกรองน้ำ Frontier Pro Military และผลิตภัณฑ์การทำน้ำดื่มให้สะอาดแบบพกพา ของ McNett ได้แล้ววันนี้ที่ Safe House ครับ

Tags: , , ,

หลอดกรองน้ำ Frontier Pro™ VS Frontier

May 22

Posted by Hiccup in Survival | Comments off

เรื่องราวของน้ำในการดำรงชีวิต เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เลยครับ ยิ่งในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างภาวะน้ำท่วมแล้ว เราแทบจะไปหาน้ำสะอาดจากที่ไหนไม่ได้เลย ทั้งๆที่มีน้ำอยู่รอบตัวไปหมด ยิ่งผ่านไปหลายวัน น้ำก็จะยิ่งมีอันตรายมากขึ้นที่จะบริโภค ทั้งจากเชื้อโรค, จากซากสัตว์ที่ตาย และมูลปฏิกูลต่างๆที่อยู่ในน้ำ แหล่งปฏิกูลที่ถูกน้ำท่วม ระบบน้ำเสียที่เอ่อล้นออกมา ปนกันมั่วไปหมดแบบนี้ จะก่อให้เกิดโรคภัยที่ร้ายแรงได้ หากเราไม่เตรียมการไว้แต่เนิ่นๆครับ

ผมขอแนะนำหลอดกรองน้ำ ซึ่งเป็นอุปกรณ์กรองน้ำ ที่ใช้งานง่าย กะทัดรัด สะดวกพกพา และน้ำหนักเบา แต่คุณภาพการกรองสูงของ McNett ซึ่งมีด้วยกัน 2 รุ่น คือรุ่น Frontier และ Frontier Pro ที่ผ่านมาตรฐานกองทัพสหรัฐฯ โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ McNett ที่เกี่ยวข้องกับน้ำดื่มนั้น มีด้วยกันอยู่หลายตัว โดยใช้ชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตนว่า Aquamira(อความีร่า) เช่น ยาเม็ดปรับสภาพน้ำสำหรับดื่ม Aquamira Water Purification Tablet และหลอดกรองน้ำฉุกเฉิน Aquamira Frontier Pro ซึ่งเป็นสินค้าที่ผมจะมาแนะนำครับ

Frontier Pro นั้นถือว่าเป็นหลอดกรองน้ำ ที่มีขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพสูงมาก มันมีขนาดใหญ่แค่ฝ่ามือ และเบาเพียง 56 กรัมเท่านั้น แต่ความทนทาน และประโยชน์ใช้งานมากมาย ยิ่งเป็น Frontier รุ่นธรรมดาด้วยแล้ว จะเล็กและเบากว่า แต่ผมจะมาแนะนำ Frontier Pro ให้ได้รู้จักกันมากขึ้น เพราะมันมีความแตกต่างจาก Frontier ธรรมดาอยู่ 3 ประการ คือ

1. มีวิธีการใช้งานที่ยืดหยุ่นกว่า Frontier รุ่นธรรมดา

Frontier รุ่น Pro นี่คือการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพจาก Frontier ให้ดีขึ้นครับ มันไม่ต้องการอุปกรณ์อะไรอื่นๆเพิ่มเติม สามารถใช้กรองน้ำดื่ม ได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่การต่อกับถุงน้ำโดยตรง โดยสามารถใช้งานร่วมกับขวดน้ำขนาด 28 มม. ชนิดเกลียว 3 ชั้น ทั่วไปได้เลย หรือจะหมุนเกลียวเอาวาวล์ปิดทางน้ำเข้าออก แล้วมาต่อเข้ากับขวดน้ำพับได้ทั่วไปอย่าง Platypus , Nalgene, Evernewฯ เพื่อใช้กรองไปดื่มไปได้ในตัว หากต้องการต่อเข้ากับถุงน้ำ ก็แค่ถอดเอาด้านจุกยาง UQC สีดำออก แล้วต่อเข้ากับหลอดจากถุงน้ำได้เลย จะแขวนทำ Gravity Filter ก็ทำได้ครับ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการรอ ให้น้ำจากด้านถุง “สกปรก” ไหลเข้าไปในถุง “สะอาด” อยู่บ้าง แต่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เราก็จะได้น้ำสะอาดราว 1 ลิตร ที่ปลอดภัยพอจะดื่มได้แล้วละครับ แนะนำว่าในการใช้งาน ให้ใช้ปากกาเมจิกเขียนให้ชัดเจนที่ถุงด้าน สกปรกว่า “ห้ามดื่ม น้ำสกปรก” ไว้ด้วยนะครับ จะได้ไม่สับสนว่า ทางไหนดื่มได้ ดื่มไม่ได้  เห็นไหมครับแค่มีเพียง Frontier Pro กับขวดน้ำสองใบ เราก็ทำระบบกรองน้ำฉุกเฉินราคาประหยัดได้แล้วครับ

2. ปริมาณการกรองที่มากกว่า

ประสิทธิภาพการกรองในแง่ของความปลอดภัย ทั้ง Frontier และ Frontier Pro นั้นแทบไม่ต่างกัน ทั้งคู่สามารถดักจับโปรโตซัว, แบคทีเรีย และสารแขวนลอยอื่นๆ ที่มีขนาดไม่เล็กกว่า 0.2 ไมครอนได้ ดังนั้นคงมีแต่ไวรัสบางชนิดเท่านั้น ที่อาจหลุดรอดผ่านไส้กรองไปได้ แต่หากพูดถึงปริมาณการใช้งาน หรือจำนวนน้ำที่กรองได้แล้วนั้น ต่างกันอยู่ลิบลับครับ Frontier นั้นใช้งานได้สูงสุด 75 ลิตร ส่วน Frontier Pro ใช้ได้มากถึง 190 ลิตร ต่อไส้กรอง แล้วในเซ็ตมีแถมมาให้ อีก 3 ไส้กรอง รวมๆแล้วสามารถใช้กรอง น้ำสะอาดได้มากถึง 760 ลิตรทีเดียวครับ

3. รับรองการใช้และพิสูจน์การใช้งานจากกองทัพสหรัฐฯ

เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่ผลิตภัณฑ์ Mcnett ได้ถูกทดสอบและใช้งานในกองทัพสหรัฐ ที่ปฏิบัติงานอยู่กระจายกันไปทั่วโลก ตั้งแต่หนาวสุดๆอย่างอลาสก้า ไปจนร้อนสุดๆในอีรัค หรือหนาวๆร้อนๆแบบในอัฟกานิสถาน และ Frontier Pro เองก็ตามติดตัวทหารเหล่านั้นไปทุกที่ครับ อีกทั้งมันยังถูกเลือกให้เป็น 1 ในชุดยังชีพฉุกเฉินของนักเดินป่า และนักท่องเที่ยวผจญภัยทั้งหลายด้วย ฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลเลยเรื่องความน่าเชื่อถือและความทนทานครับ

แต่ก็ใช่ว่าเจ้า Frontier นั้นจะไม่ดีนะครับ ข้อได้เปรียบของมันก็คือ ขนาดที่เล็กและเบากว่า เหมาะกับการใช้เป็นเครื่องกรองฉุกเฉินประจำบุคคล หรือสำรองเมื่อ ตัวกรองหลักไม่สามารถใช้งานได้ คุณสามารถพกไว้ในชุดกระเป๋ายังชีพ และติดตัวเวลาไปเข้าป่า หรือหยิบติดตัว ในช่วงที่เริ่มมีการประกาศเตือนภัยน้ำหลาก, แผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งผมอยากจะแนะนำให้ใช้ เม็ดฆ่าเชื้อเพื่อทำน้ำดื่ม Aquamira Water Purification Tablet ไว้ด้วยครับ ในกรณีที่น้ำมีความสกปรกมากๆ หรือเราสงสัยว่าแหล่งน้ำที่ใช้ไม่ปลอดภัย ก่อนที่จะทำการกรองด้วย Frontier หรือ Frontier Pro ครับ

Aquamira Water Purification Tablet นั้นใช้งานง่ายมากครับ ใส่เพียง 1 เม็ดต่อ น้ำ 1 ลิตร รอให้ละลาย แล้วเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นตั้งทิ้งไว้ราว 15-30 นาที ในน้ำอุณหภูมิปกติ หากอากาศเย็นจัดให้รอนานกว่านั้นครับ แต่ไม่เกิน 1 ชม. ไม่ว่าจะไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว พยาธิต่างๆ จะตายหมด ด้วยปฏิกริยาของคลอรีนไดออกไซด์ ที่ไม่เป็นพิษตกค้างต่อร่างกายมนุษย์ และไม่มีกลิ่นหรือรสไม่พึงประสงค์ เหมือนการใช้ไอโอดีนครับ สามารถใช้ดื่มได้ติดต่อกัน หลายวันโดยไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ใน 1 แผงนั้นจะบรรจุ 10 เม็ด สามารถบำบัดน้ำได้ถึง 10 ลิตร คิดเป็นปริมาณน้ำที่ต้องการสำหรับผู้ใหญ่ 1 คนนานถึง 5 วัน (ปริมาณที่แนะนำในภาวะปรกติคือ 2.5 ลิตรต่อวัน หากไม่ออกกำลังกายหนักครับ) ดังนั้น 1 แผง จึงเหมาะสำหรับใช้กับชุดยังชีพ 72 ชม. ของคุณแล้วครับ

สอบถามและเป็นเจ้าของหลอดกรองน้ำ Frontier Pro และ Frontier ได้แล้ววันนี้ที่ Safe House และหากคุณมีข้อสงสัยเรื่องของอุปกรณ์ยังชีพ แวะมาคุยกับเราสิครับ

Tags: , , ,

Water Purification – ทำน้ำดื่ม ให้ปลอดภัย

May 2

Posted by Hiccup in Survival | Comments off

การทำให้น้ำดื่มสะอาดถูกสุขลักษณะ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกาย มีัความสมดุลและแข็งแรง ในน้ำทั่วไปมีสิ่งมีชีวิตที่อาจนำโรคภัยมาสู่เรา ซึ่งสิ่งมีชีวิต 3 อย่างที่มักมากับน้ำ ที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ คือ 1.โปรโตซัว 2.แบคทีเรีย 3.ไวรัส วิธีทำให้น้ำสะอาดปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้ ทำได้หลายวิธี เราจะมาพูดถึงวิธีที่น่าจะเป็นประโยชน์และทำได้ง่าย

วิธีที่เห็นได้บ่อยที่สุดของการทำให้น้ำสะอาด ได้แก่ การต้มน้ำ คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการต้มน้ำให้สามารถดื่มได้ ต้องต้มนานราวๆ 5-10 นาที ซึ่งไม่จำเป็นเสมอไป เพราะโดยทฤษฎีแล้ว น้ำจะเดือดที่อุณภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งเราทุกคนทราบดี แต่ในความเป็นจริง หากคุณเพียงต้องการกำจัดโปรโตซัวในน้ำ เมื่ออุณภูมิน้ำขึ้นสูงถึง 50 องศาเซลเซียส โปรโตซัวเกือบทุกประเภทก็จะตาย หากต้องการกำจัดให้มั่นใจ โดยยังคงต้มน้ำต่อไปให้น้ำมีอุณภูมิขึ้นถึง 100 องศาเซลเซียส ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 นาที เมื่อคุณเริ่มเห็นน้ำเดือด คุณก็สามารถปิดไฟและรอให้น้ำเย็น น้ำก็จะสะอาดพร้อมดื่ม และปราศจากโปรโตซัวแล้ว ไม่ต้องปล่อยให้น้ำเดือด พลุ่งพล่านเป็นเวลานาน เพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น

คลอรีน ก็เป็นอีกวิธีที่พบบ่อยในการทำความสะอาดน้ำ วีธีการคือในกรณีที่มีสารอินทรีย์ในน้ำ สารคลอรีนจะทำหน้าที่ เหมือนเกราะครอบสิ่งมีชีวิตนั้นไว้ ทำให้มันไม่มีฤทธิ์ต่อผู้ที่สัมผัส หรือดื่มมันเข้าไป แต่จุดอ่อนของคลอรีน คือ ไม่สามารถกำจัดสารหรือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ในน้ำได้ เช่น เมล็ดของพืช, สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ฯลฯ คลอรีนจึงไม่นิยมใช้ในกระบวนการทำให้น้ำสะอาด สำหรับงานภาคสนาม

ไอโอดีน เราจะพบเห็นได้บ่อย และเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าคลอรีน ไอโอดีนจะทำให้น้ำสะอาด แต่น่าเสียดายที่ไอโอดีนไม่สามารถฆ่าโปรโตซัว Cryptosporidium ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากในประเทศไทย (Cryptosporidium จะไม่ออกฤทธิ์ทันทีทันใดต่อร่างกาย แต่จะออกฤทธิ์ประมาณ 4 วัน หลังจากที่ดื่มเข้าไป ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง และออกฤทธิ์อยู่นาน 10 วัน) ไอโอดีนเหมาะที่จะใช้กับน้ำที่มีลักษณะใส ถ้าน้ำที่ขุ่นและมีสิ่งสกปรกปะปนอยู่ในน้ำ ต้องกรองด้วยผ้าก่อน (ในกรณีที่อยู่ในป่า สามารถใช้เสื้อผ้ากรองได้) แล้วจึงใส่ไอโอดีนในอัตราส่วน 4 หยดต่อน้ำหนึ่งลิตร และสามารถเพิ่มจำนวนได้ถึง 8 หยด ในกรณีที่น้ำขุ่นหรือค่อนข้างสกปรก และทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีก่อนที่จะดื่ม แต่ไอโอดีนมีกลิ่นฉุน ปัญหาเรื่องกลิ่นของไอโอดีนในน้ำ แก้ได้โดยคุณสามารถใส่วิตามิน C เม็ด ลงในน้ำหลังจากหยดไอโอดีนแล้ว 30 นาที เพื่อช่วยกลบรสชาติของไอโอดีนลง (ข้อควรระวัง! อย่าใส่วิตามิน C ลงในน้ำก่อน 30 นาที เพราะอาจทำให้ไอโอดีนออกฤทธิ์ไม่เต็มที่) การใช้ไอโอดีน เป็นการทำให้น้ำสะอาดปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัด คือ คนที่เป็นโรคไทรอยด์ หรือคนที่แพ้สารไอโอดีน และหญิงมีครรภ์ ไม่ควรดื่มน้ำที่ใส่ไอโอดีน และที่สำคัญที่สุด คือ ไอโอดีนไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าโปรโตซัว Cryptosporidium ในน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง

สารที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคที่นิยมนำมาใช้ในการทำให้น้ำสะอาด คือ คลอรีนไดออกไซด์ สารนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ในการประปาของเมืองต่างๆ คลอรีนไดออกไซด์ จะทำหน้าที่ 2 อย่างคือ 1.เพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ และ 2. ฆ่าเชื้อโรคสิ่งสกปรกที่มากับน้ำ เช่น ไวรัส, แบคทีเรีย และโปรโตซัว รวมไปถึงโปรโตซัว Cryptosporidium จึงเป็นวิธีที่นิยมที่สุด สำหรับการทำน้ำให้สะอาดพร้อมดื่มโดยเฉพาะในงานภาคสนาม

คลอรีนไดออกไซด์ ที่ใช้กันมีหลากหลายรูปแบบและขนาด ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ แต่ที่นิยมใช้ในงานภาคสนามเป็นประเภท คลอรีนไดออกไซด์ชนิดเม็ด Aquamira ของ McNett อัตราส่วนในการใช้งาน ได้แก่ 1 เม็ด ต่อน้ำ 1 ลิตร ในกรณีที่ใช้กับน้ำที่มีลักษณะใส อุณภูมิของน้ำอยู่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส เม็ด water purifier ของ Aquamira จะสามารถฆ่าแบคทีเรียและไวรัสทั้งหมดที่มากับน้ำ ภายใน 15 นาที และจะฆ่าโปรโตซัว รวมทั้งโปรโตซัว Cryptosporidium ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งเหมาะจะพกพา และเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็น ของชุดอุปกรณ์ยังชีพ เมื่อคุณต้องทำงานในที่ห่างไกล หรือไม่มั่นใจในความสะอาดของน้ำดื่ม

ส่วนในกรณีของน้ำที่มีลักษณะค่อนข้างขุ่น และอุณภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ก็ต้องใช้เวลานานขึ้นก่อนที่จะสามารถดื่มได้ ในกรณีที่เป็นน้ำสกปรกและเย็นจัด อาจต้องใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง เพื่อให้ออกฤทธิ์เต้มที่ อุปกรณ์ที่ใช้ทำให้น้ำสะอาดพร้อมดื่ม ที่นิยมอีกประเภทหนึ่งได้แก่ ชุดกรองน้ำดื่มชนิดพกพา โดยส่วนมากวิธีการทำงาน คือ ใช้ตัวกรอง กรองสิ่งสกปรกและโปรโตซัวที่มีขนาดใหญ่ โดยการกรองร่วมกับเคมีบางชนิด ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่มีขนาดเล็ก ในส่วนของอุปกรณ์กรองน้ำนี้ เราจะพูดถึงในบทความครั้งหน้า คอยติดตามอ่านนะครับ

เกร็ดความรู้ของแถมสำหรับการดื่มน้ำให้ปลอดภัย น้ำที่ใส่ไว้ในกระติก, ถุงน้ำ หรือขวดน้ำ อาจจะดูว่าสะอาดปลอดภัย และผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดีแล้ว แต่อย่ามองข้ามน้ำจำนวนไม่กี่หยด ที่เกาะอยู่ภายในฝาขวดหรือฝากระติกน้ำ ซึ่งน้ำจำนวนไม่กี่หยดนี้ ก็สามารถทำให้คุณ หมดสนุกกับการเดินทาง เพราะเกิดอาการท้องเสียเฉียบผลันขึ้นได้ วิธีการแก้ไข คือ คว่ำกระติกหรือขวดลง แล้วค่อยๆเปิดฝาขวดออกทีละนิด เพื่อไล่น้ำสกปรกออก เมื่อเสร็จแล้ว ก็สามารถดื่มน้ำได้อย่างสบายใจแล้วครับ การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อตัวคุณเองครับ ใครสนใจ Aquamira ของ McNett และชุดกรองน้ำชนิดพกพา สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Safe House ครับ

Tags: , , ,