fbpx

Tactical Tailor Mini-MAV เกาะทับเกราะ จิ๋วแต่แจ๋ว

เห็นเสื้อเวสแบบต่างๆมาก็หลายแบบ วันนี้ผมมีเวสที่ใช้สวมทับเวสกันกระสุน รุ่น Mini-MAV (มินิ แมฟ) เวสขนาดกระทัดรัด ที่ใช้งานได้คล่องตัวมาฝากครับ

จากไอเดียในการนำพาอุปกรณ์ ที่จะต้องมีให้เพียงพอเข้าสู่สนามรบ ทำให้เจ้าหน้าที่ 1 คน มีภาระน้ำหนักยุทโธปกรณ์ประจำกายมากมาย Tactical Tailor บริษัทผู้ผลิตสินค้าไนลอนทางทหาร จากอดีตทีมสไนเปอร์ของกองทัพสหรัฐฯ ได้ออกสินค้าตัวใหม่ หลังจาก MAV (Modular Assault Vest) ได้วางตลาดมาไม่นาน ซึ่งยังคงความเป็นเวสขนาดคล่องตัวของชุดจู่โจม ที่สามารถใส่หรือถอดได้อย่างรวดเร็ว แต่คราวนี้กลับมาในขนาด Mini ที่เล็กพอเหมาะกับการซุกซ่อนในชุดเครื่องแต่งกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานนอกเครื่องแบบ หรือผู้ที่ประจำการบนพาหนะต่างๆได้เป็นอย่างดี

MAV หรือที่บางคนเรียกกันว่า Chest Rig ก็ได้นั้น ออกแบบมาให้เป็นแผงเกาะติดอุปกรณ์ ที่มีแถบยึดเกาะ MOLLE (Modular Lightweight Load-carrying Equipment) ใช้งานร่วมกับซองปืน ซองแมกกาซีน และกระเป๋าต่างๆได้หลากหลาย สามารถสวมใส่ไว้ภายนอกเสื้อเกราะต่างๆได้อย่างลงตัว ไม่เกะกะ และสามารถถอดออกได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาที่ไม่ต้องการอุปกรณ์ต่างๆ

การสวมใส่เสื้อเกราะซึ่งมีอุปกรณ์ต่างๆเกาะยึดอยู่ตลอดวลา ทำให้เพิ่มความเหนื่อยล้า จนบางครั้งอยากจะถอดทั้งเกราะและของที่ติดตัวมาออก แต่หากคุณมี Mini-MAV สวมทับบนเสื้อเกราะอีกชั้น คุณก็สามารถลดน้ำหนัก ด้วยการถอดเฉพาะ Mini-MAV และอุปกรณ์ต่างๆออก โดยไม่ต้องถอดเสื้อเกราะให้เกิดความเสี่ยง เช่น เวลาอยู่บนยานพาหนะ หรือเวลาพักผ่อนออกจากเวร เป็นต้น

ประโยชน์ที่สำคัญคือ ช่วยให้เกราะกันกระสุนยังคงอยู่กับตัวผู้สวมใส่ เพื่อรักษาระดับการป้องกันของเกราะให้คงอยู่เช่นเดิม ในงานเชิงยุทธแบบต่างๆ เช่น ลาดตระเวน, รปภ., อารักขาบุคคลสำคัญ ฯ ที่ควรจะมีเกราะกันกระสุนติดตัว หากภารกิจนั้นยังดำเนินอยู่ไม่เสร็จสิ้น

ในกรณีที่ต้องการปกปิดอุปกรณ์ และซองกระสุนไม่ให้ดูโจ่งแจ้ง อย่างผู้ที่มีหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญในสถานที่เปิดเผย ก็สามารถใช้ Mini-MAV ช่วยได้เช่นกัน

วัสดุและการใช้งาน

ถึงแม้ Mini-MAVจะมีขนาดเล็ก แต่ยังคงคุณภาพของ MAV ขนาดปกติตามมาตรฐานของ Tactical Tailor เช่นเดิม การตัดเย็บใช้ผ้าคอร์ดูร่า 1,000 ดีเนียร์ ซึ่งเป็น Ballistic Nylon หนึ่งเดียวจากบริษัทดูปองค์ ที่มีเส้นใยความหนาแน่นสูงถึง 1,000 เส้นต่อ 1 ตารางนิ้ว เป็นผ้าเกรดเดียวกับที่ใช้ตัดเย็บอุปกรณ์ทางทหาร และกระเป๋าเดินทางที่ต้องการความคงทนสูงครับ ดังนั้นเวสทุกตัว กระเป๋าทุกชิ้น ของ Tactical Tailor จึงทนทานหายห่วง

เช่นเดียวกันกับ Mini-MAV ตัวนี้ครับ เป็น Mini-modular Assault Vest สมชื่อ คือ มีขนาดเล็กมาก ราวๆ สองฝ่ามือ แต่มีคุณสมบัติต่างๆ ตามที่ MAV ตัวใหญ่ มีครบถ้วนครับสามารถติดอุปกรณ์ต่างๆได้ตามสะดวก และมีพื้นที่เพียงพอ เหมาะสมกับการใช้งานแบบเร่งด่วน เช่น ติดกระเป๋าแม็ก M4 ของ Tactical Tailor แบบ Double Mag ได้ สองกระเป๋า หรือแม็กปืนสั้นกับซองปืนสั้นแบบต่างๆได้อย่างละอัน หรือ Admin Pouch กับกระเป๋า Utility อย่างละอัน เป็นต้นครับ

คุณสมบัติที่น่าสนใจ

1.ทำจากผ้า Cordura 1,000d ที่มีความทนทานสูง ฝีมือการตัดเย็บปราณีตตามมาตรฐาน Tactical Tailor

2. มีขนาดเล็ก เบา ใช้งานง่ายทั้งการใส่ และปลดออก ไม่เกะกะ เหมาะกับผู้ที่ทำงานในยานพาหนะต่างๆ

3.ใส่ภายใต้ชุดสูท หรือ เสื้อแจคเก็ต เพื่อการซ่อนพรางไม่เป็นที่สังเกตุ

4. สามารถใส่ร่วมกับเวสกันกระสุน หรือสายโยงแบบต่างๆ ได้อย่างลงตัว เช่น ประกอบกับ X-Harness เพื่อใส่ถุงน้ำด้านหลังได้

5. ใช้ระบบ Molle ที่มีมาตรฐาน สามารถใช้ร่วมกับ Fastmag หรือ Malice Clip สายรัดด้านหลังอุปกรณ์แบบต่างๆได้ง่าย

Tactical Tailor Mini-MAV มีให้เลือกทั้ง สีดำ, สีทราย Tan, น้ำตาลCoyote และพราง Multicam สามารถเลือกชมและเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่ SAFE HOUSE ครับ

Tags: ,

A-TACS ลายพราง แนวคิดใหม่

การสร้างลายพราง (Camouflage) ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อประโยชน์ทางยุทธวิธีในสงคราม เป็นศาสตร์และศิลป์ของการซ่อนเร้นอำพรางตัวและอุปกรณ์ ให้รุกรบได้ประชิดและลวงตาศัตรูได้มากที่สุด ลายพรางในปัจจุบันยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาสิ่งที่เข้าใกล้และกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ของพื้นที่การรบเป้าหมายให้ดียิ่งขึ้น

ลายพรางที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ พราง Woodland ซึ่งเป็นพรางที่มีเฉดสีใกล้เคียงธรรมชาติ เช่น สีเขียวใบไม้ ผสมสีน้ำตาลและดำ, พรางทะเลทราย Desert Camo เป็นพรางที่พื้นสีส่วนมากจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน หรือที่เราเรียกว่าสีทราย และมักจะมีรูปทรงอื่นๆในผืนผ้า, พราง ACU เป็นพรางติจิตอลสีเขียวอมเทา ของกองทัพบกสหรัฐฯ, พราง Multicam ซึ่งคิดค้นโดยบริษัท Crye Precision และล่าสุดที่วันนี้ผมจะขอกล่าวถึง คือ ลายพราง A-Tacs ครับ

ลายพราง A-TACS® (Advanced TActical Concealment System) ซึ่งเป็นลายพรางล่าสุด ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Digital Concealment System (DCS) เพื่อตอบสนองความต้องการลวดลายที่ดีขึ้น และใช้งานได้ดีกว่าลวดลายที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจทางทหาร และผู้รักษากฎหมาย (Law Enforcement)

ลายพราง A-TACS® ออกแบบขึ้นมาให้มีลวดลายที่เป็นสากล โดยเน้นให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย ด้วยการเพิ่มเฉดสีและรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเข้าด้วยกัน

ลายพราง Digital สมัยใหม่หลายรูปแบบที่ใช้กันอยู่ในกองทัพและทั่วๆไป ถูกวิจารณ์ในเรื่องของข้อบกพร่องของสี และรูปทรงของลาย โดยส่วนมาก ลายพราง Digital ประกอบขึ้นด้วยสี่เหลี่ยมเรขาคณิตขนาดเล็กจำนวนมาก ซ้อนทับให้เกิดลวดลายพราง ทรงสี่เหลี่ยมมุมเช่นนี้ ไม่มีอยู่ในธรรมชาติ ทำให้ไม่สารมารถลอกเลียนรูปทรง และแสงเงาของสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวได้ดีนัก

และในบางสถานการณ์ รูปทรงสี่เหลี่ยมที่เป็นมุม 90ํ จะไม่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทั่วไป ทำให้เป็นที่สังเหตุได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การออกแบบลาดเหลี่ยมทับซ้อนในรูปแบบเดียวกันนี้ ทำให้มองคล้ายกับเป็นสีพื้นสีเดียว และดูเหมือนจะเป็นรอยเปื้อน เมื่อมองจากระยะไกล

ซึ่งลายพราง A-TACS® ได้พัฒนาเพื่อลดจุดอ่อนหลักๆ ที่พบได้ทั้ง 3 ประการในลายพรางทั่วไป

1. ทดแทนลายสี่เหลี่ยมที่ไม่เป็นธรรมชาติ ด้วยรูปทรงลวดลายแบบธรรมชาติ และเฉดสีที่ออกแบบขึ้นมาใหม่โดยวิธีการจำลองสีขององค์ประกอบจากธรรมชาติ และควบคุมความเข้มของแสงอย่างพิถีพิถัน ลวดลายที่ถูกสร้างขึ้นเรียกว่า “organically-shaped” ใช้ขั้นตอนทางคณิตศาสตร์ ในการเขียนลายด้วยข้อมูลสีที่ถูกเลือกมาโดยเฉพาะใส่เข้าไป ลวดลายที่สำเร็จออกมา ถึงจะเป็นลวดลายแบบดิจิตอล แต่ลายพรางจะดูเป็นธรรมชาติ แตกต่างจากพรางดิจิตอลแบบดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง

2.ใช้รูปทรงของลายขนาดเล็ก จะให้รายละเอียดกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมมากขึ้น เพื่อสร้างความแตกต่างจากลายดิจิตอลแบบเดิม ซึ่งเป็นรูปเรขาคณิตที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยที่รูปทรงขนาดเล็กรวมกันเป็นรูปทรงขนาดใหญ่ และรูปทรงขนาดใหญ่ จะถูกจัดวางในรูปทรงที่แตกต่าง โดยจะไม่มีเส้นแนวนอนและแนวตั้งให้เห็นเด่นชัด โดยใช้แนวความคิด pattern within a pattern” ทำให้ A-TACS® ช่วยลดความชัดเจนของรูปทรงของร่างกายมนุษย์ในการมองจากระยะไกล

3. เลือกใช้ color-range ที่เหมาะสม เพื่อระบบการพรางตัวที่ดีขึ้น เฉดสีของ A-TACS® เลือกใช้การผสมผสานของ color-range ที่เป็นธรรมชาติ มากกว่าที่มีการใช้ในปัจจุบัน เฉดสีพื้นฐานของลวดลายเป็นสีน้ำตาลทราย (Tan) ซึ่งเป็นการออกแบบมาเพื่อใช้กับภารกิจในที่โล่ง, พื้นที่ภูเขาและสภาพภูมิอากาศที่แห้งแล้ง รูปทรงอิสระและซับซ้อนแต่ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้ลวดลายนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ง่ายต่อการปรับใช้ในภารกิจ และหน่วยงานที่หลากหลาย และยังเป็นลวดลายที่ยากในการลอกเลียนอีกด้วย

ส่วนแบรนด์ชั้นนำ ที่เริ่มผลิตสินค้าลายพราง A-TACS® ออกวางจำหน่าย ได้แก่ Remington®, Bushmaster®, DPMS Panther Arms®, Danner®, EOTAC®, Tactical Assault Gear®, Blue Force Gear® , Emerson Knives® และอีกมากมายที่จะตามมา ซึ่งไม่นานมานี้ EOTAC ร่วมกับ Emerson Knives ได้ผลิตมีดลายพราง A-TACS รุ่นแรกออกวางจำหน่าย ใครที่สนใจติดตามอ่านได้ที่ https://www.safehouse.co.th/blog/tag/emerson/ อย่าลืมแวะชมและเป็นเจ้าของได้แล้วที่ Safe House ครับ

Tags: , , ,

หมวก Infidel Caps Now In Stock

สี : ชมพู , เทาเข้ม , ดำ , Multicam , กากี และเขียว OD Green

Carabiners คาราบิเนอร์ คืออะไร สำคัญอย่างไร

NFPA-G Screw Lock, NFPA-G Auto Lock, NFPA-L Manual Lock, Non-Locking, and HMS Carabiner

คาราบิเนอร์ Carabiners หรือ Karabiner คือ ห่วงเกี่ยวนิรภัย ที่ใช้ประกอบการโรยตัว หรือใช้งานกับเชือกและอุปกรณ์อื่นๆ สามารถใช้เป็นจุดเชื่อมโยง, ยกสิ่งของ, ลากรถ, ใช้เกี่ยวหรือดึงอุปกรณ์ต่างๆ และเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตเราอย่างไร ผมได้รวบรวมข้อมูลมาแบ่งปันกันครับ

คาราบิเนอร์ Carabiners เป็นห่วงเกี่ยวที่มีส่วนของโครงและก้านเปิด ใช้ในการรับน้ำหนักของวัตถุหรือบุคคล โดยยึดโยงน้ำหนักจาก 2 จุดเข้าด้วยกัน ซึ่งคาราบิเนอร์ต้องมีความแข็งแรงมากพอ ที่จะรับนำหนักนั้นๆเอาไว้ และหลายครั้งคาราบิเนอร์ก็มีบทบาท ในการใช้รับน้ำหนักบุคคล ในการกู้ภัย ซึ่งต้องเอาชีวิตคนไปแขวนอยู่บนเชือกและอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น ที่ต้องเลือกใช้งานอย่างเข้าใจ เพราะหากเลือกคาราบิเนอร์ผิดประเภท เจ้าห่วงเล็กๆก็อาจทำให้เกิดอันตรายใหญ่หลวงถึงชีวิตได้เลยทีเดียว

ถูกแยกออกตามประเภทการใช้งาน คาราบิเนอร์ มี 4 ประเภทการใช้งานหลักๆ

1. คาราบิเนอร์ ที่ออกแบบเพื่อการใช้งานเชิงกีฬา

2. คาราบิเนอร์ ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้รับน้ำหนักบุคคลคนเดียว งานบนที่สูง หรือการป้องกันตก

3. คาราบิเนอร์ ที่ออกแบบเพื่องานกู้ภัย ที่ต้องรับน้ำหนักมากกว่าบุคคลคนเดียว

4. คาราบิเนอร์ ที่ออกแบบเพื่อประดับตกแต่ง หรือไม่ได้รับน้ำหนักมาก เช่น ทำเป็นพวงกุญแจหรือของที่ระลึก

How much do you trust your carabiners?

คาราบิเนอร์ที่ใช้เกี่ยวพวงกุญแจ หรือประดับตกแต่ง มักจะมีราคาไม่สูง เช่น ใช้ทำเป็นพวงกุญแจ คล้องถุงมือ, คล้องหูกางเกง ฯ วัตถุประสงค์เพื่อ รับน้ำหนักอุปกรณ์เล็กๆ และไม่มีการระบุอัตราการรับน้ำหนัก ซึ่งไม่ควรจะนำไปใช้ในการป้องกันการตกจากที่สูง หรือใช้ในงานกู้ภัย เพราะอาจเกิดอันตรายได้ คาราบิเนอร์ประเภทนี้ที่รู้จักกันดี คือ Grimlock , Taclink ฯ

คาราบิเนอร์ที่ใช้งานเชิงกีฬา เป็นคาราบิเนอร์ที่ราคาถูกที่สุด ในบรรดาคาราบิเนอร์ ที่มีการระบุอัตราการรับน้ำหนัก และมักจะออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักบุคคลเพียงคนเดียว หลักในการออกแบบคาราบิเนอร์เชิงกีฬา คือ ต้องมีขนาดกะทัดรัดและเบา เช่น คาราบิเนอร์สำหรับปีนเขา, ไต่หน้าผา

คาราบิเนอร์ที่ใช้งานป้องกันตก ถูกออกแบบให้ทนทาน ส่วนมากจะผลิตจากเหล็ก แต่รูปทรงอาจจะดูไม่ทันสมัย และทดสอบการรับน้ำหนักบุคคลคนเดียว เพื่อป้องกันการตกจากที่สูง มาตรฐานความปลอดภัยกำหนดให้ทนแรงดึง ได้ประมาณ 22 Kn.

คาราบิเนอร์ที่ใช้ในงานกู้ัภัย เป็นคาราบิเนอร์ที่ทนต่อการรับน้ำหนักมากที่สุด ในบรรดาคาราบิเนอร์ ซึ่งมาตรฐาน NFPA 1983(2006) กำหนดให้รับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 27 Kn.

ความทนทานของคาราบิเนอร์ ใช้หน่วยวัดเป็นกิโลนิวตัน KiloNewtons (kN) 1 กิโลนิวตัน เท่ากับ 101.97 กิโลกรัมของแรง หรือ Kilogram force วิธีง่ายๆในการจำ คือ 1 กิโลนิวตัน เทียบเท่ากับน้ำหนักคนหนึ่งคน พร้อมด้วยอุปกรณ์ (อุปกรณ์ประจำตัว, อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย) น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม

ดังนั้นถ้าคาราบิเนอร์ระบุว่า รับน้ำหนักหรือทนแรงดึงได้ 30 kN อาจดูเหมือนทนทานมาก แต่ตัวเลขอาจสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ดังนั้นมาตรฐานความปลอดภัย กำหนดให้ไม่ควรใช้คาราบิเนอร์ รับน้ำหนักเต็มอัตราตามที่ระบุไว้ แต่ควรใช้ปัจจัยด้านความปลอดภัย หรือที่เรียกว่า safety factor ซึ่งเป็นน้ำหนักสูงสุด ที่คาราบิเนอร์สามารถรับได้อย่างปลอดภัย โดยสำหรับงานกู้ภัยทั่วไปจะใช้อัตรา 10:1 ส่วนงานดับเพลิงกู้ภัยจะใช้อัตรา 15:1 เนื่องจากน้ำหนักอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีมาก ดังนั้นถ้าคาราบิเนอร์ทนแรงดึงได้ 30 kN ควรจะใช้รับน้ำหนัก สูงสุดที่ 3 kN หรือประมาณ 300 กิโลกรัม ยิ่งเมื่อต้องใช้รอกทดแรง หรือน้ำหนักที่เคลื่อนไหวเข้ามาเกี่ยวข้อง การรับน้ำหนักคนเพียงคนเดียว สามารถทำให้คาราบิเนอร์หักได้ิอย่างง่ายดาย จากแรงดึงที่เกิดขึ้นในการทดแรงนั้นเอง

ในยุโรป คาราบิเนอร์ที่ออกแบบเพื่อใช้รับน้ำหนักบุคคล จะต้องผ่านมาตรฐาน EN 362:2004 “ห่วงเกี่ยวนิรภัย สำหรับอุปกรณ์ป้องกันภัยประจำบุคคล ในการป้องกันการตกจากที่สูง ” มาตรฐานนี้ระบุว่า คาราบิเนอร์จะต้องมีจุดหักตัวต่ำสุด (minimum breaking strength) ที่ 20kN สำหรับการรับน้ำหนักแนวดิ่งโดยแกนหลักและปิดล็อค, 15kN สำหรับเมื่อใช้ในขณะที่ก้านเปิดเปิดค้างอยู่ และ 7kN เมื่อรับน้ำหนักแนวตรงกับก้านเปิด ซึ่งเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุดของคาราบิเนอร์

ในอเมริกา ใช้มาตรฐานสมาคมดับเพลิงกู้ภัย NFPA 1983 (2006 ed) กำหนดความปลอดภัยของ “เชือกที่ใช้ในการกู้ภัย และอุปกรณ์ที่ใช้งานในสภาวะฉุกเฉินที่เกี่ยวข้อง” ครอบคลุมคาราบิเนอร์สำหรับ ‘light-use’ เช่น คาราบิเนอร์ที่ออกแบบเพื่อรับน้ำหนักบุคคล โดย NFPA 1983:06 กำหนดให้คาราบิเนอร์ ‘Light-Use’ จะต้องมีจุดหักตัวต่ำสุดอยู่ที่ 27kN สำหรับการรับน้ำหนักแนวดิ่งโดยแกนหลักและปิดล็อค, 7kN สำหรับเมื่อใช้ในขณะที่ก้านเปิดเปิดค้างอยู่ และ 7kN เมื่อรับน้ำหนักแนวตรงกับก้านเปิด

NFPA 1983:06 ระบุให้แยกประเภทคาราบิเนอร์ เพื่อใช้รับน้ำหนักงานกู้ภัยโดยเฉพาะ เป็นแบบ ‘General-Use’ ซึ่งคาราบิเนอร์ที่ใช้ในงานกู้ภัยจะต้องมีจุดหักตัวต่ำสุดที่ 40kN สำหรับการรับน้ำหนักแนวดิ่งโดยแกนหลักและปิดล็อค, 11kN สำหรับเมื่อใช้ในขณะที่ก้านเปิดเปิดค้างอยู่ และ 11kN เมื่อรับน้ำหนักแนวตรงกับก้านเปิด โดยที่ NFPA lowered open-gate strength requirements for carabiners are because unlike EN362, NFPA กำหนดให้คาราบิเนอร์มี to have a locking gate mechanism ซึ่งมีมาตรฐานอื่นๆในการกำหนดความปลอดภัย แต่ มาตรฐาน EN362 และ NFPA 1983 เป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับ และกำหนดให้แสดงอัตราการรับน้ำหนัก ลงบนคาราบิเนอร์ทุกตัว

ข้อกำหนดตามมาตรฐานมีอีกมากมาย แต่หากคาราบิเนอร์มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ในด้านรูปทรงและลักษณะภายนอก ก็ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ จุดมุ่งหมายในการใช้งานเป็นตัวกำหนดรูปทรง วัสดุ และคุณสมบัติของคาราบิเนอร์ วัสดุที่ใช้ทำคาราบิเนอร์โดยส่วนใหญ่ ทำจากอลูมิเนียม หรือเหล็ก แต่คาราบิเนอร์รุ่นใหม่ทำจากวัสดุพิเศษ เช่น ไทเทเนียม

สำหรับ CMC Rescue เป็นผู้ผลิตคาราบิเนอร์เพื่องานกู้ภัย และมีคาราบิเนอร์ซึ่งทำจากแสตนเลสทุกชิ้นส่วน แม้แต่สปริงด้านใน รูปทรงของคาราบิเนอร์ ส่วนมากมักเป็นรูปตัว D เนื่องจากเป็นรูปทรงที่ช่วยเอื้อให้การรับน้ำหนัก อยู่ในจุดที่แข็งแรงที่สุดของคาราบิเนอร์ได้ง่าย Major Axis และจุดรับน้ำหนักจะอยู่ห่างจากก้านเปิด ช่วยลดอันตรายจากการรับน้ำหนักในจุดที่อ่อนแอที่สุด Minor Axis ลงได้

คาราบิเนอร์ในยุคแรกเริ่ม จะมีก้านเปิดเป็นแบบไม่มีตัวล็อค หรือแบบหมุนล็อคเป็นส่วนมาก

คาราบิเนอร์ที่ใช้ในเชิงกีฬา บางครั้งใช้คาราบิเนอร์ที่ไม่มีระบบล็อค หรือใ้ช้ก้านเปิดแบบลวด เพื่อช่วยลดน้ำหนักอุปกรณ์ ส่วนคาราบิเนอร์แบบใหม่มักใช้ก้านเปิดแบบล็อคอัตโนมัติ Auto-locking หรือบิดหมุนล็อคเข้าสลัก manual-locking คาราบิเนอร์แบบล็อคอัตโนมัติ จะล็อคทันทีที่ก้านเปิดถูกปิด ซึ่งต้องใช้การบิดและกดเพื่อเปิด 2 ขั้นตอน หรือดันลง แล้วจึงหมุน และกดเพื่อเปิด 3 ขั้นตอน

คาราบิเนอร์แบบล็อคอัตโนมัติ ช่วยให้เปิดและปิดได้สะดวกรวดเร็ว โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลว่าจะลืมล็อคคาราบิเนอร์ ส่วนคาราบิเนอร์แบบบิดหมุนล็อค Manual-locking เป็นคาราบิเนอร์ดีไซน์ใหม่ล่าสุด ซึ่งผู้ใช้ต้องบิดเพื่อให้ก้านเปิดเข้าล็อค แทนที่จะใช้การหมุนเกลียวล็อคซึ่งจะล็อคได้ช้ากว่า

นอกเหนือจากการใช้งานที่ง่ายขึ้น คาราบิเนอร์แบบล็อคอัตโนมัติ และบิดหมุนล็อคเข้าสลัก ยังเป็นคาราบิเนอร์ที่เหมาะกับงาน ที่มีแรงสั่นสะเทือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งแรงสั่นสะเทือนสามารถทำให้คาราบิเนอร์แบบเกลียวหมุน คลายเกลียวออกได้ เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงหากต้องใช้งานบนอากาศยาน เช่น เฮลิคอปเตอร์

ยังมีเรื่องราวและข้อสังเกตุเกี่ยวกับคาราบิเนอร์อีกมากมาย เอาไว้่ผมจะมาเล่าในโอกาสต่อไปครับ

Tags: , , , , ,

Revision พุ่งยอดขายอันดับ 1 ในกองทัพสหรัฐฯ

Revision ครองตำแหน่งแว่นตานิรภัยมาตรฐานทางทหาร ที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในบรรดาแว่นตานิภัย ที่กองทัพสหรัฐฯ เลือกใช้ประจำการ

Revision ก้าวหน้าด้วยคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง โดยรายงานจากข้อมูลการตลาด โดยการเก็บสถิติอย่างเป็นทางการล่าสุด 12 เดือนที่ผ่านมา Revision มียอดขายต่อหน่วยสูงสุด และข้อมูลจนถึงเดือนกรกฎาคม 2553 ยังแสดงให้เห็นว่า Revision ครองยอด 35.2% เมื่อเทียบสัดส่วนกับแว่นตานิรภัยทุกประเภทและทุกยี่ห้อ ที่จัดซื้อโดยกองทัพสหรัฐ และยังมียอดขาย 7.7% สูงกว่าแว่นตานิรภัยมาตรฐาน Mil-Spec ที่มีความทนทานสูงกว่ามาตรฐานแว่นตาเซฟตี้ทั่วไป ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกัน แซงอันดับสองไปอย่างเป็นเอกฉันท์

ยอดขายรวมบวกกับยอดขายในระบบ RFI : Rapid Fielding Initiative ซึ่งเป็นระบบรายการสินค้าเฉพาะของกองทัพบก ที่จัดหาให้กับทหารได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางเอกสารหรือจัดซื้อกลาง เพื่อให้ทหารที่ต้องออกประจำการ ได้รับอุปกรณ์ที่ควรและจำเป็นต้องมี ก่อนออกปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ เช่น อิรัค, อัฟกันนิสถาน ฯ โดยทหารจะต้องแสดง ID เพื่อรับอุปกรณ์ที่มีอยู่ในรายการนั้นๆ และ Revision ก็ถูกบรรจุให้เป็นแว่นตานิรภัย และแว่นครอบตานิรภัย สำหรับทหารที่กำลังจะออกไปรบเหล่านั้น

สำหรับท่านที่สนใจแว่นตา Revision และต้องเป็น Revision ของแท้ ที่ผลิตในประเทศอเมริกาและจำหน่ายโดยตัวแทน ที่ได้รับอนุญาติอย่างเป็นทางการเท่านั้นนะครับ คุณถึงจะได้แว่น Revision ที่รับประกันได้ว่าป้องกันดวงตาได้ตามมาตรฐานทางทหารอย่างแท้จริง

Revision ปลอมมีวางขายทั่วไปในฮ่องกง, จีน ฯ ราคาของปลอมอยู่ที่ 250-1,000 บาท หน้าตาคล้ายกัน แถมเลนส์ 3 สีอีกต่างหาก แต่จะเอาดวงตา ที่ประเมินค่าไม่ได้ของคุณไปเสี่ยงเหรอครับ

ผมมีภาพทหารอเมริกันที่ออกประจำการ และใช้งานแว่น Revision ทั้ง Revision Sawfly และ Revision Desert Locust มาให้ชมกันครับ

Tags: , ,

Streamlight Polytac ตระกูลไฟ คุณภาพแรง

Polytac รุ่น มาตรฐาน

ผมมีไฟฉายพกพา ที่ดีทั้งคุณภาพและราคา จาก Streamlight มาแนะนำกันครับ หลังจากที่ Streamlight ออกไฟฉาย Polytac โดยใช้หลอดไฟ C4LED ให้ความสว่าง 130 ลูเมนส์ ซึ่งหากจะเทียบเคียงขนาดและหน้าตาแล้ว จะใกล้เคียงกับ Surefire G2 LED แต่มีข้อดีที่สว่างกว่า ราคาประหยัดกว่า และปุ่มกดสามารถกดค้างไว้ได้ ในขณะที่ Surefire G2 LED ต้องกดแช่เท่านั้น

ต่อมาในช่วงเดือนพฤษภาปีเดียวกัน Streamlight ก็ได้พัฒนา Polytac รุ่นใหม่ตามมาในชื่อ Polytac HP ซึ่งก็แน่นอนว่า ต้องมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม โดยที่ Polytac HP มีรูปทรงที่แตกต่าง โดยมีโคมไฟกว้างขึ้น และความสว่างเพิ่มขึ้นไปถึง 150 ลูเมนส์ ไฟฉายตระกูล Polytac ยังคงใช้เทคโนโลยี C4 Photonic Crystal ที่ออกแบบให้หลอด LED ชนิดนี้ สามารถรีดความเข้มข้นของแสง ได้มากกว่าหลอด High Flux LED ถึง 3 เท่า แต่ประหยัดไฟเท่าเดิม ด้วยอายุหลอดที่ยาวนาน 50,000 ชั่วโมง เรียกว่าถ้าคุณเปิดใช้เพียง 1 ชั่วโมงต่อวัน คุณก็จะสามารถใช้งานไปได้อีก 136 ปี ถ้าไม่ทำหายไปเสียก่อน

Polytac HP ให้คุณเปิดใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน 3 ชั่วโมง และตัว body ไฟฉาย ทำจากอลูมิเนียมหุ้มไนลอนโพลิเมอร์ เช่นเดียวกับ Polytac รุ่นมาตรฐาน ที่ทั้งเบาและทนทาน ต่อสารเคมี, น้ำมันปืน, กรด, ด่าง และแรงกระแทก มีโอริงซีลกันน้ำ, ฝน และความชื้น และหากคุณทำไฟฉายตกน้ำ ก็สามารถจมน้ำลึกได้ 1 เมตร นานกว่า 30 นาที (แต่ตัวไฟฉายจะไม่ลอยน้ำนะครับ) Polytac HP ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม CR123A  ขนาด 3 โวลท์ 2 ก้อน ซึ่งแถมมาให้ในกล่อง ซื้อปุ๊บก็เปิดใช้งานได้ทันทีครับ มีสีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและเหลือง ตามความต้องการใช้งาน

Polytac HP

Polytac และ Polytac HP ใช้สวิตท์ปิดเปิดแบบปุ่มยาง แบบกดติดค้างแล้วกดอีกทีดับ หรือกดครึ่งหนึ่งแล้วปล่อยเพื่อเปิดปิดอย่างรวดเร็ว แบบการส่งสัญญาณ หรือใช้งานด้านยุทธวิธี ปุ่มกดใช้งานง่ายแม้ใส่ถุงมือขนาดใหญ่ แผ่นกระจกด้านหน้าของตัวโคม Polytac HP เปลี่ยนเป็นโพลิคาร์บอเนต ทนความร้อน และยังเคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วน เนื่องจากความใหญ่ของตัวโคม จึงมีโอกาสที่จะแตกมากกว่า Polytac รุ่นธรรมดา ซึ่งใช้เป็นแก้วทนความร้อน โคมด้านในช่วยสะท้อนแสง ผลิตจากอลูมิเนียม ที่ออกแบบให้ลึกลงไป จึงช่วยรวมแสงทำให้ ส่องสว่างได้ไกลถึง 245 เมตร เมื่อเทียบกับขนาดกะทัดรัดบนฝ่ามือ ไฟลำแสงของ Polytac HP จะเป็นแบบพุ่ง เหมาะสำหรับที่จะต้องส่องวัตถุในระยะไกลๆ เช่น การเฝ้าระวังภัยบริเวณรอบๆ ที่พักอาศัย หรือ การเดินเข้าไปในตรอกซอกซอยเวลามืดค่ำ เป็นต้น

ผมทดสอบด้วยการเปิดฉายไฟเข้ากับกำแพง เทียบกับ Polytac รุ่นมาตรฐาน จะเห็นว่า Spot (ส่วนที่ลำแสงเข้ม) ของ Polytac HP จะมีขนาดที่เล็กกว่า แต่ Spill (ส่วนที่ลำแสงฟุ้ง) จะสว่างกว่า Polytac รุ่นมาตรฐาน ส่วน beam pattern เมื่อเทียบกันแล้ว จะเห็นว่ากรวยของ Polytac HP ทำมุมแคบกว่าในระยะเท่ากัน นั่นหมายถึงการออกแบบให้เป็นไฟฉายเชิงยุทธวิธี ใช้สำหรับส่องกดดันเป้าหมายได้ ในสถานการณ์แบบ Low-Light หรือการส่องกวาดหาเป้าหมายในระยะไกลเป็นต้น

ถ้าคุณกำลังมองหาไฟฉายที่มีขนาดกลางๆ แต่มีกำลังไฟสูง เชื่อถือได้แน่นอน ทนทาน กันน้ำกันฝน เอาไว้พกพา, ตรวจตราบริเวณบ้านเรือน, เอาไปแคมปิ้ง หรือเก็บไว้ในรถยามจำเป็น Polytac HP ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ไม่น่าจะมองข้ามไป ทั้งด้วยคุณภาพที่เกินตัว แต่ราคาไม่เกินเอื้อม โดยเฉพาะถ้าซื้อที่ Safe House เรารับประกันทั้งราคาจากตัวแทนจำหน่าย และการรันตีสินค้าโดยตรงจากผู้ผลิต สบายใจได้ครับ

Streamlight Polytac มาพร้อมกับ “Limited Lifetime Warranty” ซึ่งหมายถึงการใช้งานปกติ ทั้งนี้การรับประกันจะไม่รวมถึง การตั้งใจทำให้พัง (Abuse) ซึ่งผู้ผลิตจำเป็นต้องระบุไว้ แต่ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครทำเช่นนั้น, หลอดไฟ, แบตเตอรี่ และที่ชาร์จ (เฉพาะรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ ที่สามารถชาร์จได้และที่ชาร์จแบตฯ จะรับประกัน 1 ปี ครับ) ทั้งนี้หากสินค้าอยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน สามารถส่งซ่อม โดยลูกค้าจะเสียเฉพาะค่าขนส่งเท่านั้นครับ ใครสนใจ Streamlight รุ่นอื่นๆ อย่าลืมสอบถามหรือแวะชมสินค้าได้ที่ Safe House นะครับ

Tags: , , , , , ,