ใกล้หน้าฝนกันอีกแล้ว สินค้าที่ถูกถามกันเข้ามามาก คือ กระเป๋ากันน้ำ เพื่อใช้ในการเดินทาง หรือเก็บรักษาอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กระเป๋ากล้อง, กระเป๋าสตางค์, ถุงทะเล ฯ เพื่อจะได้นำของใช้และของมีค่า รวมถึงอุปกรณ์ในการเดินทางที่ไม่ต้องการให้เปียกน้ำ ลุยป่า ท้าฝน ท้าน้ำกันได้อย่างไม่กลัวเปียก ผมจึงขอแนะนำ Overboard ซึ่งเป็นผู้ผลิตกระเป๋า และซองใส่อุปกรณ์ป้องกันน้ำคุณภาพสูง งานประณีตสวยงาม ทนทาน ที่ทาง Safe House จัดมาให้ตามคำเรียกร้องครับ
ก่อนอื่นผมขออนุญาติเล่าเรื่องราวของ ผลิตภัณฑ์ Overboard กันสักนิดครับ Overboard มีจุดมุ่งหมายทางธุรกิจข้อเดียว คือ การกันไม่ให้ น้ำ ทราย ฝุ่น หรืออะไรก็ตาม หลุดเข้าไปทำลายของใช้ส่วนตัวของคุณ เช่น เสื้อผ้า กล้องถ่ายรูป กระเป๋าเงิน หรือ Ipod สุดที่รัก และที่สำคัญคือ คุณยังสามารถสนุกกับการฟังเพลง, ถ่ายรูป หรือรับโทรศัพท์ ขณะใช้งานใกล้น้ำ หรืออยู่ในน้ำได้ด้วย
Overboard ยังผลิตผลิตภัณฑ์ ป้องกันน้ำอีกมากมาย ตั้งแต่ซองใส่เงินเล็กๆ, กระเป๋าคาดเอว, เป้สะพายหลัง ไปจนถึงกระเป๋าใส่อุปกรณ์ดำน้ำขนาดใหญ่ 120 ลิตร และยังมีอุปกรณ์ที่อยู่ในการวิจัยพัฒนาอื่นๆ เพื่อตอบสนองลูกค้า ที่ชื่นชอบกีฬาสมบุกสมบัน และการผจญภัย เช่น ปีนเขา, เดินป่า, ดำน้ำ, เที่ยวน้ำตก, เจ๊ทสกี, วินเซอร์ฟ, เวคบอร์ด หรือ นักขี่ซูเปอร์ไบต์ เป็นต้น ให้สามารถได้ทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ โดยไม่ต้องกังวลว่า อุปกรณ์ที่คุณพกติดตัว จะเสียหายจากสภาพอากาศอีกต่อไป
อีกเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Overboard ก็คือการกำหนดระดับการป้องกันน้ำ ออกเป็นคลาสต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อ และเข้าใจความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ซึ่งทาง Overboard ได้กำหนดคุณลักษณะการป้องกันน้ำ ไว้ 5 ระดับด้วยกัน คือ
- Class 1 ป้องกันน้ำกระเด็นใส่ หรือ ฝนตกเบาๆ ระดับนี้เป็นการป้องกันน้ำ ทราย และ ฝุ่นผงได้ในระดับต่ำ ซึ่งไม่สามารถนำกระเป๋าไปลงน้ำ หรือสาดน้ำใส่หนักๆ หรือ ฝนตกเป็นเวลานานๆ ได้
- Class 2 ป้องกันการเปียกน้ำ หรือแช่น้ำ ในขณะกระเป๋าตั้งหัวขึ้น เนื่องจากระบบล็อกกันน้ำของ Overboard ใช้วิธีการพับฝา ในกระเป๋าระดับนี้ จึงยังไม่สามารถคว่ำหัวลงแช่น้ำได้ แต่สามารถอยู่ในฝนตกหนักได้เป็นเวลานานๆ
- Class 3 ป้องกันในกรณีต้องแช่น้ำ หรือ จมน้ำเป็นเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นการป้องกันน้ำระดับสูงขึ้น ด้วยระบบล็อกที่ดีกว่าระดับ 2 ทำให้กระเป๋าสามารถจมน้ำระดับตื้นๆ ไม่เกิน 1 เมตร ได้เป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างไม่มีปัญหา คลาสนี้ส่วนใหญ่จะเป็น กระเป๋าโน๊ตบุค ถุงทะเล เป้สะพายหลัง และ กระเป๋าอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ครับ
- Class 4 ป้องกันการจมน้ำ หรือดำผิวน้ำ ในระดับนี้สามารถแยกอากาศและน้ำ ออกจากกันโดยสมบูรณ์ กระเป๋าสามารถจมน้ำลึก 1 เมตรได้เป็นระยะเวลานาน หรือไม่เกิน 4 เมตร ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทั้งนี้ผู้ผลิตแนะนำว่า ไม่ควรจมน้ำลึกกว่า 1 เมตร เกิน 24 ชม. เพราะแรงกดดันของอากาศในกระเป๋าที่สูงจะทำให้ ขอบเริ่มปริและแตกได้
- Class 5 จมน้ำ หรือ ดำน้ำ ในคลาสสูงสุดนี้ เป็นคลาสที่ออกแบบสำหรับ งานด้านการกู้ภัยใต้น้ำ, กีฬาดำน้ำ หรืองานที่ต้องการความทนทานสูง สามารถดำน้ำได้ลึกถึง 30 ฟุต ได้ในระยะเวลาหนึ่ง หรือสามารถจมน้ำลึกไม่เกิน 12 ฟุต ได้ระยะเวลานาน อุปกรณ์ที่อยู่ในคลาสนี้ คือ ซองใส่กล้องถ่ายภาพ, ซองใส่ GPS และ ซองใส่โทรศัพท์มือถือ
หมายเหตุ Class การป้องกันของ Overboard นั้น ถูกกำหนดจากโรงงานผู้ผลิต ซึ่งไม่ถือเป็นมาตรฐานสากลของการป้องกันน้ำ คลาสดังกล่าวเป็นการรับรองระดับการรั่วซึมของน้ำ ไม่ให้เข้าไปทำลายอุปกรณ์ที่เก็บไว้ภายใน ไม่ได้รวมถึงการรับรองการทำงาน ของอุปกรณ์ดังกล่าว ที่อาจเกิดความเสียหาย เมื่ออยู่ภายใต้ระดับความลึก เพราะความกดดันสูงได้ ผู้ใช้งานโปรดพิจารณาปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย
สนใจสั่งซื้อและชมสินค้าของ Overboard ได้แล้ววันนี้ที่ Safe House ครับ
ในบรรดาหมวกกันกระแทกที่มีจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบัน ยี่ห้อมาตรฐานโดยเฉพาะในอเมริกา คงหนีไม่พ้นยี่ห้อ Pro-tec ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะเป็นหมวกที่ถูกใช้กันอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่งานด้านกีฬาไปจนถึงงานทางทหาร เพราะแต่เดิมนั้น หมวก PASGT (พาส-เจ็ท) ซึ่งเป็นหมวกกันกระสุนรุ่นเดิมที่ทหารเคยใช้ จะไม่มีชุดรองกันกระแทกเพื่อป้องกันศีรษะ จากสิ่งตกกระทบและการกระแทก ซึ่งบ่อยครั้งที่ทหารต้องโรยตัวจากอาคารหรืออากาศยาน หรือในระหว่างฝึกเตรียมความพร้อม ศรีษะจะถูกกระแทกเข้ากับขอบอาคาร หรือสิ่งของต่างๆอยู่เสมอ
ดังนั้นในหน่วยรบเคลื่อนที่เร็วหลายหน่วย จึงหันมาใช้หมวกกันกระแทกแทนหมวกกันกระสุน (ทั้งนี้ต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงในแต่ละภารกิจ ซึ่งหมวกกันกระแทก ไม่สามารถใช้ทดแทนหมวกกันกระสุนได้) ซึ่งป้องกันศีรษะจากการกระแทกที่ไม่รุนแรง และมีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนที่ได้คล่องตัวกว่า บนปัจจัยที่ว่าโอกาสในการถูกยิง มีน้อยกว่าโอกาสที่ศีรษะถูกกระแทกและคอเคล็ด จากน้ำหนักหมวกกันกระสุนที่ต้องแบกรับไว้ตลอดเวลา
