fbpx

นกเหล็ก บ.ตร. กับภารกิจกู้ภัยทางอากาศ

httpv://www.youtube.com/watch?v=IOw9tCmitgs

ผมนำภาพวีดีโอที่หาดูได้ยาก ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยกองบินตำรวจ ขณะปฏิบัติงานกู้ภัยทางอากาศ ช่วยชาวบ้านในจุดที่ความช่วยเหลือ อื่นใดเข้าไปไม่ถึง ณ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันที่ 6 เม.ย. 2554 ที่ผ่านมา ฝากให้ชื่นชม และเป็นกำลังใจ ให้ผู้ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังทุกท่านครับ ขอบคุณภาพวีดีโอ จากนักข่าวบางกอกโพสต์

แหล่งที่มา : บางกอก โพสต์

Tags: , , ,

ทีมกู้ภัย บ.ตร.ส่งอาหารและน้ำ ถึงมือผู้ประสบภัยแล้ว!

เป็นหน้าที่และเกียรติภูมิ ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักบิน กองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ใช้ “ม้าขาว” หรือเฮลิคอปเตอร์กู้ภัย โดยมีอุปกรณ์นำส่งทางอากาศ ซึ่งสนับสนุนโดย บริษัท ซี แอร์ ไทย จำกัด ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ยังมีชาวบ้านตกสำรวจ และติดอยู่ในพื้นที่ที่ไม่อาจเข้าถึงได้ด้วยพาหนะอื่นๆอยู่อีกมาก

แม้ว่าความพยายามเข้าถึงพื้นที่ จะมีหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยแล้วก็ตาม แต่หลายครั้งที่ข้าวสุกและอาหาร ซึ่งถูกโยนลงไป ตกกระแทกกับน้ำและแตกกระจายอย่างไม่มีชิ้นดี หากมองไปให้ถึงชาวบ้าน ที่ต่างแหงนคอคอย จะเห็นน้ำตาพวกเขาไหลนองหน้า เพราะอาหารมื้อที่พวกเขารอ ไม่สามารถนำมารับประทานได้อีกเช่นเคย เป็นเรื่องน่าเศร้าและสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหลายหน่วยงาน ที่มีเฮลิคอปเตอร์ ต่างต้องหันมาทบทวนว่า การช่วยเหลือได้เข้าถึงผู้เดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน และต้องแก้ไขการปฏิบัติกันอย่างไร

หนึ่งในหน่วยงานที่เข้าไปช่วยชาวบ้าน เห็นจะไม่พ้นกองบินตำรวจ ซึ่งในที่สุดเจ้าหน้าที่กู้ภัย ก็ทำสำเร็จ ด้วยการใช้เปลตะกร้า ซึ่งจัดหาไว้ใช้ในภารกิจกู้ภัยทางน้ำ แบบเดียวกับที่หน่วย US Coast Guard ใช้กับเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยในปัจจุบัน ได้ถูกนำมาใช้ในภารกิจครั้งนี้ ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ โดยเฉพาะ UH-1 ทุกลำที่ทุกหน่วยงานมีอยู่ สามารถทำได้ โดยไม่ต้องอาศัยรอกกว้านราคาหลักสิบล้าน ร่วมกับประสบการณ์ที่ฝึกฝนมาอย่างดี ทำให้การนำอาหารคราวละมากๆ เข้าถึงชาวบ้านที่รอความช่วยเหลือ ได้อย่างไม่เสียหาย ปลอดภัย และประสบความสำเร็จ เรียกเสียงเฮ และคำขอบคุณล้นใจจากชาวบ้านผู้เดือดร้อน

เจ้าหน้าที่กู้ภัยกองบินตำรวจท่านหนึ่งกล่าวกับเราว่า “เชื่อมั๊ยว่า ผมทำไป ร้องไห้ไป เห็นแล้วสงสารชาวบ้าน พวกเขาหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย มันท่วมหมดเลย ขนาดวัด ยังมองเห็นแค่หลังคา เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ไป ก็ฮึดสู้กันแบบถวายหัว เรียกว่าเช้ายันตะวันตกดิน ไม่ได้หยุดพัก แต่ทั้งวันมันก็ไม่หิวนะ อยากกินแต่น้ำ ขนาดเครื่องที่เหลือชั่วโมงบิน ต้องเข้าซ่อมอีก 3 ชั่วโมง เราก็ยังบินกันจนสุดท้าย ต้องให้นักบินกลับ เอาเครื่องไปซ่อม พวกผมยังไม่รู้ว่าจะได้กลับวันไหน แต่ถ้าเราอยู่ ชาวบ้านเห็นพวกเราเขาก็มีกำลังใจ เขายกมือไหว้ขึ้นท่วมหัวเลยนะ พวกผมเหนื่อย แต่ก็มีความสุข เต็มใจสู้กันทุกคน”

น่าชื่นชม เจ้าหน้าที่และทีมงานผู้สู้ไม่ถอย ขอให้พวกท่าน มีกำลังกายและใจ ประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือประชาชน และปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ เราสัญญากันว่า เมื่อท่านกลับจากภารกิจ เราจะมาทบทวนและฝึกฝน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานกู้ภัย ให้เข้าถึงและช่วยชีวิตประชาชน ในเหตุการณ์วิกฤตต่อไปอย่างไม่ลดละ

ขอบคุณนักข่าวจากบางกอก โพสต์ ที่เก็บภาพการทำงาน ที่ยากจะมีใครเห็น แม้แต่เจ้าหน้าที่เอง ก็ต้องทุ่มเท จนหาโอกาสบันทึกภาพได้ยาก หากเรามีโอกาส จะรวบรวมผลงานของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ มาฝากให้ชมกันครับ

แหล่งข่าวและภาพ : http://www.bangkokpost.com/news/local/230321/recovery-begins-as-rains-ease

Tags: , , ,

ทรหดจรดปลายหาง ViperTail ล่าสุดจาก Revision

httpv://www.youtube.com/watch?v=S1Qf6aj9zJM

Revision Military ออกแว่นตากันแดดรุ่นล่าสุด ViperTail ดีไซน์ใหม่ มอบความโฉบเฉี่ยวและทน สมชื่อ “หางอสรพิษ” ด้วยรูปทรงที่ฉีกแนว แต่ยังคงคุณสมบัติความเป็นแว่นทรหด ทั้งหล่อทั้งลุย ใส่ใจรายละเอียดแม้แต่กรอบหรือข้อพับ ก็ออกแบบให้ทนต่อแรงปะทะขั้นสูง ทดสอบแล้วว่าเหนือว่ามาตรฐานทั้ง ANSI Z87.1-2010 และ U.S. military standard MIL-PRF-31013, clause 3.5.1.1 นับเป็นแว่นตากันแดดตระกูลใหม่ในปี 2011 ที่ใส่ได้ทุกวัน สำหรับแฟนๆ Revision ต้องบอกสักนิดว่า ผลิตออกมาไม่มากนะครับ เราจะนำของจริงมาให้ชม และเป็นเจ้าของกันปลายเมษานี้ครับ

คุณสมบัติ ViperTail

  • PREMIUM COMFORT: น้ำหนักเบา บางกระชับ สวมใส่สบายได้ยาวนาน
  • HIGH-IMPACT PROTECTION: เหนือกว่ามาตรฐาน ANSI Z87.1-2010 และ U.S. military standard MIL-PRF-31013, clause 3.5.1.1
  • RUGGED DURABILITY: กรอบแว่น ทนแรงปะทะขั้นสูง ดีไซน์ข้อพับรองรับแรงปะทะได้ลงตัว
  • FLAWLESS OPTICS: เลนส์เพื่อถนอมสายตา ไร้ค่าบิดเบือน เพื่อทัศนะวิสัยเป็นเลิศ
  • TOUGH-COAT LENSES: เลนส์เคลือบป้องกันรอยขีดข่วน
  • 100% UV PROTECTION: ป้องกันรังสี UV A-B-และ C ได้ 100 เปอร์เซนต์

Tags: ,

Jacket SoftShell กันน้ำ ต้านลม จาก TRU-SPEC

ช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. ที่ผ่านมา อากาศซึ่งร้อนเป็นปกติ ใครจะรู้ว่าจู่ๆก็เกิดจะหนาว แบบเย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างไร้วี่แวว ถ้าเป็นเพียงแค่ความคิด ผมคงขำและคิดว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ แถมยังจะมีฝนตกซ้ำอีก แต่มันเกิดขึ้นแล้วสิครับ พาลจะเป็นหวัดกันง่ายๆ ยิ่งถ้าร่างกายอ่อนแอ หรือผู้สูงอายุแล้วก็ยิ่งน่าเป็นห่วงครับ

วันนี้ผมจะขอแนะนำเสื้อกันลมและกันละอองฝน ทำจากผ้า ShoftShell จาก TRU-SPEC ผู้นำด้านเสื้อผ้าทางทหารจากสหรัฐฯ ซึ่งผ้าแบบ ShoftShell นี่ เป็นผ้าสเปคพิเศษ ที่ผลิตจากไนลอน 90% เพื่อความทนทานและทนต่อสภาพอากาศ และสแปนเด็กซ์ 10% เพื่อความยืดหยุ่นตัวและระบายอากาศได้ดี ตัวแจ็คเก็ตที่ใช้ผ้า ShoftShell เลยมีทั้งความทนทานและสวมใส่สบาย ผิดจากเสื้อกันลมกันหนาวทั่วๆไปครับ สามารถทนทานต่ออากาศได้ทั้งหนาวทั้งฝน อย่างไม่หวั่น

TRU-SPEC ShoftShell นี้ มีความพิเศษอีกประการคือ เรื่องของกระเป๋าครับ มันมีกระเป๋าทั้งหมด 4 ตำแหน่ง คือ ที่หน้าอก ซ้ายขวา และที่ข้างลำตัวด้านซ้ายขวา ซึ่งทั้ง 4 ตำแหน่งนี้ สามารถใส่ของที่จำเป็นได้มากมายครับ ตั้งแต่กระเป๋าสตางค์, เอกสารที่หน้าอก, เครื่องเล่น Mp3 และโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้ของข้างในเปียกฝนได้อีกด้วย

เพราะผ้า ShoftShell มีคุณสมบัติให้น้ำระเหยออกภายนอกได้ทางเดียว แต่ไม่ซึมเข้าด้านใน คุณจึงรู้สึกแห้งสบายตัว ไม่อับชื้นครับ อีกทั้งยังระบายเหงื่อได้ดี ในเวลาอากาศร้อนก็ไม่ทำให้อบครับ ตัวซิบเป็นของ YKK เรื่องปิดเข้าเปิดออกทนทานหายห่วงแน่นอน

TRU-SPEC ShoftShell เสื้อแจ็คเก็ตกันลมกันละอองฝน Military Grade สำหรับผู้ชาย มีจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ Safe House ในไซส์ M และ L สีดำครับ

Tags: ,

งูกัด กับการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง

ปลายเดือนมีนาที่ผ่านมา คนไทยต้องเจอสภาพอากาศแปรปรวน เกิดหน้าหนาวกลางฤดูร้อน บวกด้วยฝนตกน้ำท่วมรุนแรง ในหลายพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้หลายคนเริ่มเตรียมตัวรับมือกับภัย จากสิ่งใกล้ตัวกันมากขึ้น คำถามหนึ่งที่ผมมักจะถูกถาม คือ สัตว์มีพิษที่มากับน้ำท่วม เช่น ตะขาบ, แมงป่อง และ งู ที่หนีน้ำขึ้นบ้านเรือน โดยมากจะเป็นเรื่อง หากถูกงูกัดจะทำอย่างไร เพราะเป็นภัยที่เกิดขึ้นได้ จากการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะการตั้งแคมป์ หรือเดินป่า

ซึ่งข้อมูลการช่วยชีวิตผู้ถูกงูกัด ที่ผมกำลังจะกล่าวถึง เป็นข้อมูลที่หักล้างกับความรู้เดิมๆ ซึ่งเคยบอกว่าให้เปิดปากแผล ดูดพิษงูออก แล้วขันเชนาะไว้ และถ้าทำได้ให้จับงูไปด้วย แล้วจึงนำผู้ถูกกัดส่งโรงพยาบาล ผมเองก็ได้รับการสอนมาแบบนั้นเช่นกัน ในวิชาลูกเสือและวิชา สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต (สปช.) แต่วิธีการดังกล่าวได้ถูกวิทยาการปัจจุบัน พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น หนำซ้ำกลับทำให้บาดแผลเลวร้ายลง จนบางทีถึงกับต้องตัดแขนขาทิ้งกันเลยทีเดียว

เรื่องราวการแก้พิษงู ตามความเข้าใจของคนทั่วไป และผลเสียที่เกิดขึ้น

  • ขันเชนาะ ซึ่งเป็นวิธีที่คนมักจะคิดว่าได้ผล เพราะมันหยุดเลือดไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้ แต่อย่าลืมว่า พิษงูไม่ได้เดินทางผ่านทางเส้นเลือดเพียงอย่างเดียว มันสามารถเดินทางผ่านเส้นประสาทใต้ผิวหนังได้ และการกักพิษงู ให้อยู่ที่เดียวกันนานๆโดยขันเชนาะไว้นั้น จะยิ่งทำให้ความเข้มข้นของพิษ ทำลายเนื้อเยื่อในบริเวณนั้นๆเร็วขึ้น จนอาจทำให้เสียแขนหรือขาที่ถูกกัดไปเลย หนำซ้ำการใช้สายรัดห้ามเลือด ที่ไม่ถูกวิธี ยิ่งจะทำให้เนื้อเยื่อที่ถูกกดไว้เสียหาย กลายเป็นเนื้อตาย บวกกับพิษงูแล้ว ยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง ทางที่ดีควรขยับคนไข้ให้น้อยที่สุด และปลอบให้เขาผ่อนคลายลง หรือนอนนิ่งๆ ดีกว่าการขันเชนาะ หรือกักพิษไว้บริเวณใดบริเวณหนึ่งจะดีกว่าครับ และรีบนำส่งโรงพยาบาล โดยไม่ต้องรีรอ
  • การพยายามหาว่างูชนิดไหน ที่มากัดจนมากเกินไป จะทำให้เสียเวลา แน่นอนว่าถ้าเราเห็นงู และสามารถบอกแพทย์ได้ว่างูชนิดไหนกัด จะช่วยให้ง่ายต่อการรักษา แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ การนำผู้ถูกกัดส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งเวลาผ่านไปมาก คนไข้ย่อมมีโอกาสพิการ หรือ เสียชีวิตมากขึ้น และคุณอาจกลายเป็นคนไข้เสียเอง ถ้าถูกงูกัดเข้าอีกคน
  • อย่าพยายามกรีดหรือเปิดบาดแผล ให้พิษงูระบายออกตามเลือดที่ไหล หรือไปบีบเค้น หรือดูดพิษจากบาดแผลด้วยปาก เรื่องนี้คงเห็นกันในละคร ที่พระเอกพยายามช่วยนางเอก หรือนางเอกพยายามช่วยพระเอกด้วยวิธีนี้ ซึ่งการทดลองทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์แล้วว่ามันไม่ได้ผล และทำให้เนื้อเยื่อเสียหายมากขึ้น จากการซ้ำเติมบาดแผลด้วยการบีบ กรีด เค้นเลือดออกมา และทำให้เกิดการติดเชื้อจากการใช้ปาก หรืออุปกรณ์ดูดพิษงูชนิดต่างๆ ที่ถามหากันมาก ซึ่งไม่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์ว่ามันช่วยลดพิษงูจากบาดแผลได้จริง และเช่นที่ผมบอกไปแล้วครับ อย่าเสียเวลาทำสิ่งที่ไม่ได้ผล รีบพาผู้ถูกกัดส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดดีกว่า

  • การใช้น้ำแข็งประคบเพื่อหยุดพิษงู เรื่องนี้ก็เช่นกันครับ ไม่ได้ช่วยอะไร กลับทำให้เนื้อเยื่อตายจากความเย็นจัด หรืออาการน้ำแข็งกัด (Frost bite) และอย่าลืมว่า เส้นเลือดจะหดจากความเย็นก็จริง แต่น้ำแข็งไม่ใช่เซรุ่มครับ ไม่ส่งผลอะไรต่อพิษงูเลย
  • การใช้ไฟฟ้าช็อตที่แผล ข้อนี้ยิ่งแล้วใหญ่ครับ เชื่อว่าจะทำให้ “พิษตาย” วิธีนี้ทำให้คนไข้ยิ่งทรมาน และยิ่งทำให้ชีพจรเต้นแรง เป็นการเร่งให้พิษเดินเร็วขึ้นไปอีก และพิษงูเป็นสารเคมี ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต มันจึงไม่ตายจากการช็อตด้วยไฟฟ้าอย่างแน่นอน ไม่ได้ผลอย่างสิ้นเชิงครับ

ผมมีกรณีศึกษา สาเหตุหลักของการถูกงูกัดในสหรัฐอเมริกามาเป็นตัวอย่างครับ จากสถิติผู้ที่ถูกงูกัดในสหรัฐอเมริกา พบว่ากว่า 80% เป็นเพศชาย ในจำนวนนั้น 40% ถูกงูกัดในขณะดื่มเหล้ามึนเมา และ 60% ของบริเวณที่ถูกกัดทั้งหมด จะเป็นที่มือครับ แปลง่ายๆได้ว่า คนเมาเหล่านี้ เห็นงูแล้วพยายามจะไปจับ จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ถูกงูกัดเข้าที่มือเป็นส่วนมาก

สถิติที่น่าสนใจอีกข้อคือ ในสหรัฐฯ งูพิษที่กัดคนนั้น ใน 3 ครั้งที่กัด จะมีเพียง 1 ครั้งที่มีการปล่อยพิษออกมา ส่วนอีก 2 ครั้ง พบว่าบาดแผลจะไม่มีพิษงู มีแต่รอยกัดเท่านั้น สาเหตุก็เพราะว่างูพิษนั้น จะใช้พิษของตนในการล่าเหยื่อเพื่อเป็นอาหาร และพิษของงูนั้น เมื่อหมดลงแล้ว กว่าจะสังเคราะห์ขึ้นใหม่ ต้องใช้เวลานาน หมายความว่าหากมันกัดพร่ำเพรื่อ มันจะไม่สามารถหาอาหารได้และอดตาย ดังนั้นงูส่วนใหญ่ที่กัดคน มักกัดเพราะตกใจ ไม่เจตนากัดเพื่อล่าหรือฆ่า จึงไม่ปล่อยพิษเต็มที่ เพราะเป็นการกัดเพื่อป้องกันตัว หรือหากจำเป็นจะปล่อยออกมาไม่มากนัก ซึ่งในภาษาฝรั่งเขาเรียกกันว่า “กัดแห้ง – Dry bite” และหากผู้ถูกกัดไม่มีอาการแพ้พิษงู ก็สามารถรักษาตามอาการได้ทันท่วงที

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่างูกัดแบบไหน คำตอบคือ อย่าไปสนใจครับ จะกัดแบบแห้งหรือไม่แห้ง ก็ให้ปฐมพยาบาลผู้ถูกกัดเหมือนกัน คือนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด อย่าเสียเวลาไปกับการหางู หรือไล่ตีมันให้ตาย หรือพยายามบีบแผลหรือล้างแผลเอง ณ จุดเกิดเหตุ

วิธีปฐมพยาบาลที่ควรจะทำหลังถูกงูกัด

1.พยายามให้คนไข้อยู่ในอาการสงบ หายใจลึกๆ เคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด ไม่ให้ชีพจรเต้นเร็ว เพื่อไม่ให้พิษงูกระจายสู่กระแสเลือดได้เร็วขึ้น แล้วให้รีบนำส่งผู้ถูกกัดไปโรงพยาบาลโดยเร็วครับ

ในขณะที่นำคนไข้ถูกงูกัดส่งโรงพยาบาล

  • อย่างแรกเลยคือคนช่วยต้องใจเย็นครับ ยิ่งไปตื่นเต้น ยิ่งทำให้คนไข้ตื่นตาม ให้ปลอบและพยายามให้คนไข้ ขยับตัวให้น้อยที่สุด ท่าที่ถูกคือให้นอนราบกับพื้น แล้วเคลื่อนย้ายในท่านอน เพราะทำให้หัวใจทำงานน้อยลง ระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ควรทราบว่าสถานพยาบาลนั้นๆ มีเซรุ่มแก้พิษงูหรือไม่ เพราะหากไปผิดที่แล้ว จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากท่านอยู่ในพื้นที่ป่าหรือมีงูอยู่มาก ให้บันทึกเบอร์ติดต่อสถานพยาบาลใกล้เคียงเอาไว้ หรือจะสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ถึงกรณีการถูกงูในบริเวณนั้นๆไว้เป็นความรู้ก็ยิ่งดีครับ
  • เมื่อให้ผูู้ถูกกัดนอนแล้ว ให้ปลดนาฬิกา แหวน หรือสร้อยที่ใส่อยู่ออกให้หมด เพราะเมื่อบริเวณที่ถูกกัดนั้นบวมแล้ว สร้อยหรือสายนาฬิกาจะรัด และถอดออกยากมาก ซึ่งมันจะทำให้เลือดไหลไม่สะดวก ก่อให้เกิดการคั่งของพิษ ให้ผลเดียวกันกับการรัดแบบขันเชนาะ ซึ่งไม่ดีแน่นอนครับ

  • หากเป็นไปได้หรือมีอุปกรณ์ ให้ทำเหมือนเข้าเฝือกบริเวณที่ถูกกัด โดยเข้าเฝือกตั้งแต่ข้อพับบนและข้อพับล่างของบาดแผล เพื่อป้องกันการขยับของกล้ามเนื้อ และจับคนไข้ให้นอนบนเปล กระดานรองหลัง หรือนอนราบบนเบาะรถ ก่อนทำการเคลื่อนย้าย  มันจะช่วยให้คนไข้ไม่ขยับตัวมากเกินไป และง่ายต่อการนำส่ง โดยให้คนไข้นอนวางแขนแนบลำตัวนิ่งๆมากที่สุด
  • แทนที่จะใช้การขันเชนาะ ให้เราชะลอการไหลของพิษ โดยการใช้ผ้าพันแผลแบบยืด พันให้แน่นจนพอตึง เพื่อสร้างแรงกด เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับบาดแผลงูกัด โดยใช้แถบผ้ายาวหรือผ้าพันแผล พันบริเวณเหนือแผล และพันต่อๆกันไปทางหัวใจ ด้วยแรงกดพอเหมาะ ไม่แน่นจนหยุดการไหลของเลือด และไม่หลวมจนไม่เกิดอะไรเลย พันไล่มาจนสุดความยาวผ้า การทำเช่นนี้จะเป็นการชะลอให้เลือดนำพิษเข้าสู่ร่างกายช้าๆ เพื่อการขับออกไปทีละน้อยได้ในภายหลัง หากไม่มีผ้าพันแผลแบบยืด ผ้าที่แนะนำคือผ้ายืดที่ใช้พันข้อของนักกีฬาครับ ผ้าพันนี้จะไม่ถูกแกะออกเลย จนกว่าจะถึงมือแพทย์ที่ทำการรักษานะครับ
  • ระหว่างนำส่ง บริเวณบาดแผลจะเริ่มบวมขึ้นๆ อย่าตกใจ เราสามารถบอกความรุนแรงของพิษได้ ตามอัตราการบวมของมัน สังเกตุได้โดยใช้ปากกาหรือเมจิก ทำเครื่องหมายบริเวณที่เกิดการบวมทุกๆ 15 นาที เราจะสามารถบอกความเร็วของพิษ ที่ไหลเข้าสู่ร่างกาย และความแรงของการทำลายของมัน ว่ามากน้อยหรือรุนแรงเพียงใด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในการวินิฉัยของแพทย์ครับ

ผมหวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ ในการปฐมพยาบาลผู้ถูกงูกัด จริงอยู่ที่วิธีเดิมๆที่เราเรียนรู้ ยังมีอยู่ในความคิดและความเชื่อ แต่อย่าลืมว่า นั้นเป็นวิธีที่สอนต่อๆกันมาหลายสิบปี จนในปัจจุบันได้มีการทดลอง สรรหาอุปกรณ์ และเก็บตัวอย่างสถิติที่ดีกว่า ดังนั้นเราควรเข้าใจวิธีการ และขั้นตอนในการรักษายุคใหม่เสียแต่วันนี้ครับ

สิ่งที่ง่ายที่สุดแต่สำคัญที่สุด ก็คือการป้องกันไม่ให้งูกัด โดยสวมรองเท้าหุ้มข้อสูง แทนการใส่รองเท้าแตะ หากคุณต้องเดินป่า หรือไปในที่รกๆ และใช้ไม้หรือมีดยาวๆแกว่งไปตามพงหญ้า ในระหว่างเดิน เพื่อไล่งูไปจากทางเดินนั้น และอย่าล้วงหรือขวานหาสิ่งของด้วยมือเปล่า ในที่รกที่มองไม่เห็น เช่น รู หรือใต้ขอนไม้ ฯ

Safe House หวังว่าข้อมูลนี้ จะช่วยให้ท่านเข้าใจ และนำไปปฏิบัติ ให้เกิดความปลอดภัยกับชีวิตคุณและผู้อื่นได้ ติดตามอ่านเรื่องราวความปลอดภัยอื่นๆได้ในบทความหน้าครับ

Tags:

Exoshield สุดยอดแว่น Low profile จาก Revision

ผมมีภาพแว่นรุ่นใหม่ รุ่น Exoshield ของ Revision Military มาฝากให้ชมกันก่อนใครอีกเช่นเคยครับ Exoshield เป็นแว่นชนิดไร้กรอบ พร้อมสายรัดศีรษะที่สามารถแยกใส่ได้อย่างง่ายดาย แต่ยังคงความแกร่งและทนทาน เช่นเดียวกับเลนส์ของ Revision Sawfly ซึ่งเหมาะมากสำหรับงานกระโดดร่มเชิงยุทธวิธี หรือกิจกรรมที่เน้นความบางกระชับ (low profile) เป็นพิเศษ ด้วยรูปทรงแว่นโค้งมน ไร้กรอบ ไร้ฐานรองจมูก แต่ยึดเกาะได้อย่างแนบกระชับ Exoshield ยังไม่มีแบบ Asian fit ออกมาเฉพาะนะครับ และยังไม่มีกำหนดออกวางจำหน่าย แต่เรานำภาพมาฝากให้ชมกันก่อนใครที่ Safe House ที่เดียวเท่านั้นครับ

Tags: ,