fbpx

Archive for category Survival

ประกาศรางวัล Urban Survival

หลังจากที่จัดกิจกรรม Urban Survival ภารกิจยังชีพ สมรภูมิกลางเมือง ภายใต้โจทย์ซึ่งเป็นเหตุการณ์สมมุติว่า หากคุณติดอยู่ในคอนโดกลางใจเมืองถึง 7 วัน ในภาวะบ้านเมืองวิกฤต ซึ่งคุณอาจจะถูกตัดไฟฟ้า อาหารและน้ำเหลือน้อยลงทุกที ปัจจัยหรืออุปกรณ์ยังชีพอะไร ที่คุณต้องการและควรจะมีไว้เตรียมพร้อมเผชิญ กับเหตุการณ์ฉุกเฉินทุกรูปแบบ

คณะกรรมการได้เลือกเรื่องที่ถูกกติกาและโดนใจมากที่สุด จากท่านสมาชิกที่ส่งเข้ามา ซึ่งเราได้รับอนุญาติจากผู้ชนะ (คุณปรเมศว์ – คุณไก่ จากโคราช) ให้นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังครับ คุณไก่ได้คะแนนความพยายาม แถมยังแต่งเรื่องประกอบอุปกรณ์ต่างๆมาให้อ่าน เนื้อหาสนุกสนาน เป็นกันเองและเป็นตัวของตัวเอง ผมจะขอลงเฉพาะในส่วนการแนะนำอุปกรณ์ตามโจทย์นะครับ ส่วนเรื่องแต่งที่ส่งมาต้องขอบคุณมากๆเลยครับ

คุณปรเมศว์

เกิดมาจนอายุ 39 แล้ว ไม่เคยเขียนส่งแข่งอะไรเลย จนมาเจอ web ของคุณนะครับ ได้อ่านได้ดูรายละเอียดของแต่ละอย่างก็รู้สึกดีนะครับ อยากไปดูร้านด้วยตัวเอง การได้รางวัลถึงมันจะเป็นของแค่นี้ แต่มันเป็นความสุขทางใจนะครับ ผมดีใจมากที่ได้รับรางวัล ผมก็ขอขอบคุณคณะกรรมการด้วยนะครับ ที่อ่านแล้วนึกสนุกกับสิ่งที่ผมเขียนไปนะครับ มันใช้งานได้จริงๆนะครับ ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนนะครับต้องเตรียม พร้อมเสมอๆนะครับ

ขอบอกก่อนนะครับว่าผมไม่ได้เป็นทหารหรือเป็นอะไรทั้งสิ้น ผมเป็นชาวบ้านธรรมดานะครับ ขอแนะนำอุปกรณ์ดังนี้ครับ ขอเริ่มต้นเรื่องก่อนนะครับ สิ่งที่ควรมีในสถานการณ์ของบ้านเมืองไทยในคอนโดนะครับ ของยังชีพที่มีนะครับ

  • ที่ชาร์จ พลังงานแสงอาทิตย์ ที่เป็นได้ทั้งไฟฉายและที่ชาร์จโทรศัพท์นะครับ (หาซื้อได้ตามคลองถมนะครับ) เหตุผล เวลาตอนเช้าถึงกลางวัน เราก็เอาที่ชาร์จไปชาร์จแสงอาทิตย์ เก็บพลังงานไว้ใช้เวลากลางคืน แล้วยังสามารถชาร์จกับมือถือได้ด้วย ไว้ติดต่อกับโลกภายนอกนะครับ แล้วยังสามารถชาร์จกับลำโพง Mini-su30 ได้อีกต่างหากนะครับ
  • นกหวีด เหตุผลไว้ใช้เวลาส่งสัญญาณเรียกให้คนได้ยินเสียงนะครับ
  • ไฟฉาย Tactical สักอันครับ เพื่อใช้ในตอนใช้เป็นสัญญาณ SOS ในตอนกลางคืน ไว้เรียกให้คนมาช่วยนะครับ
  • ผ้าเช็ดตัว ธรรมดาก็ได้นะครับ (แต่ถ้าเป็นของ Micronet ก็ดีนะครับ) เหตุผลเพราะมันแห้งไว้นะครับ
  • ผ้าพันคอผืนน้อย เหตุผลเอาไว้เช็ดเหงื่อ หรือคลายร้อนนะครับ (ถ้าเป็น Arctic Bandana ก็ดีนะครับเพราะสามารถซับความเย็นได้นานนะครับ)
  • สมุดจดบันทึก อะไรก็ได้นะครับ ไว้เวลาว่างตอนกลางวันจดบันทึกเหตุการณ์ที่ผ่านมานะ ครับ (ถ้าเป็น Rite In The Rain ) ก็ดีนะครับเพราะมันกันเปียกได้ครับ
  • มีด สักอันนะครับไว้ป้องกันตัว หรือปาดของนะครับ (ถ้าได้ HEST : ESEE ก็ดีนะครับ)ไว้เก็บยา แล้วไว้ทุบกระจกได้นะครับ
  • water purification (เอาไว้ทำน้ำดื่ม)เพราะน้ำเหลือน้อย จะได้ทำน้ำที่เราใช้แล้วตากแดดฆ่าเชื้อ เพื่อไว้กินตอนจำเป็นจริงๆนะครับ
  • ที่กรองน้ำ อเนกประสงค์ (ที่ติดตัวได้นะครับ)ไว้กรองน้ำที่หาได้อีกทีนะครับ อันนี้เป็นอันเล็กขนาดพกพา เอาไว้ติดตัวใส่กระเป๋าได้นะครับ
  • ที่ปิดหู เหตุผลในสถานการณ์แบบนั้น อาจจะมีเสียงดังจากการยิงกันหรือระเบิด เราต้องป้องกันเสียงที่เกิดจากการยิง เวลาเรานอนนะครับ (ถ้าได้ Combat Arms Earplugs ก็คงดีนะครับ รับรองหลับสนิทนะครับ)
  • Starflash Ultra นะครับ เป็นกระจกสะท้อนแสง ไว้เวลาส่งสัญญานให้คนมาช่วยนะครับ
  • ผ้าพัน Camo Form เหตุผลเอาไว้พันและพรางอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ด้ามมีด จะได้ไม่เจ็บมือแล้วยังติดเหนียวทนทาน นะครับ ถ้าไม่มีใช้เศษผ้าก็ได้นะครับ
  • ESEE Knives AH-1 Arrowhead ใช้ทำเป็นฉมวก เอาไว้ป้องกันตัว และหาสัตว์เล็กน้อยนะครับ
  • ถุงมือ ใช้จับของแหลมคมและป้องกันมือ (ถ้าได้ eotac ก็ดีนะครับ) เพราะมันทนทานนะครับ
  • แท่งแมกแนเซียมหรือไฟเช็ค เหตุผลไว้จุดเวลาไม่มีไฟใช้นะครับ
  • ถุงยางอานามัย เหตุผล เอาไว้ใส่น้ำ หรือ จุดไฟนะครับ (แล้วไปไว้ป้องกันตัวเองจากโรคด้วยนะครับอิอิ)
  • คารานิเนอร์หรือห่วงเกี่ยวนิรภัย และเชือก เหตุผลอาจจะเอาไว้โรยตัวหรือดึงสิ่งของก็ได้นะครับ
  • ถุงดำ-กระดาษทิชชู เหตุผล มีไว้ใส่ขยะจากการขับถ่ายนะครับ
  • ถ่านไฟฉาย ขนาด AA จำนวน 2 ก้อน และ AAA จำนวน 2 ก้อน ไว้ใส่ถ่ายไฟฉายและใส่วิทยุ
  • ตะคร้อเบ็ด และเอ็น เหตุผลเผื่อใช้เกี่ยวของเล็กๆ หรือเอาไว้จับปลานะครับ หากจำเป็นต้องหาอาหารกินเองครับ
  • ตัวตัดสายเบลท์-ยิงกระจก เหตุผลอาจจะต้องใช้ เวลาเกิดเหตุการณ์ติดอยู่ในรถหรือต้องออกทางหน้าต่างนะครับ
  • กระบอกไฟฉายแบบเขย่า เอาไว้เวลาไม่เหลืออะไรแล้วนะครับ
    สุดท้ายขอให้ร้านขายของได้เยอะนะครับ แล้วผมจะไปอุดหนุนอีกคนนะครับ

กรรมการได้เพิ่มเติมรางวัลรองชนะเลิศ เป็นผ้า Microfiber ขนาด Medium มูลค่า 950 บาท ให้กับคุณปานพิชิต เพิ่มอีกรางวัล เป็นรางวัลที่ไม่ได้ประกาศไว้ แต่เพราะคุณปาน เขียนมาอย่างตั้งใจ และให้รายละเอียดได้ดี มีข้อคิดที่ดีในการดำรงชีพในเมือง เรียบเรียงเนื้อหาแบบมืออาชีพ อ่านง่าย สมควรเผยแพร่ให้ความรู้แก่สมาชิกท่านอื่นครับ

คุณปานพิชิต

URBAN SURVIVAL

ในโลกของเราทุกวันนี้มีแต่ภัยธรรมชาติ ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ผู้คนเริ่มหวาดระแวงกันและกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งต่างๆที่ไม่คิดว่าจะเกิดให้เห็นในช่วงชีวิตเรา ก็พลันเกิดขึ้นมาถี่ขึ้นเรื่อยๆในช่วงนี้ พร้อมกับข่าวลือเรื่องวันโลกาวินาศ ก็ชักจะมีเค้าว่าไม่เป็นแต่เพียงในหนัง ซึ่งผู้คนก็มักจะคิดว่าเป็นเพียงเรื่องแต่งที่ตื่นเต้นเท่านั้น หากแต่เราสังเกตกันสักนิด จะพบว่าหลังปี 2000 มานี้ มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นปีละหลายๆครั้ง ซึ่งล้วนแต่ไม่เกี่ยวข้องกัน นับจาก แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งทำให้เกิดคลื่นซึนามิพัดทำลายประเทศชายฝั่งเสียราบคาบ ภายุไซโคลนในพม่า แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน หรือแผ่นดินไหวในเฮติ โดยเฉพาะในเฮตินั้นหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์เสกลที่ทำให้ ประชาชนราว 230,000 รายเสียชีวิตในทันที อีกกว่า 300,000 รายบาดเจ็บและพิการ อีก 1 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย

เฮติกลายเป็นมิกสัญญีในชั่วข้ามคืน เนื่องจากที่นี่นี้เป็นหนึ่งในประเทศด้อยพัฒนา และการศึกษาอันดับต้นของโลก ผู้คนที่รอดชีวิตเริ่มจับกลุ่มจลาจลปล้นสะดมร้านค้าเพื่อหาอาหาร และขโมยของมีค่า และเริ่มหนักขึ้นเมื่อเกิดปัญหาเรื่องการบังคับบัญชา ของกำลังตำรวจและทหาร เพราะทำเนียบรัฐบาลถูกแผ่นดินไหวทำลาย สหประชาติและประเทศต่างๆ ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ เพราะไม่มีใครรับรองในความปลอดภัยของทีมช่วยเหลือจากกลุ่มโจร อีกทั้งพื้นที่ๆเป็นเกาะของประเทศทำให้ การเข้าถึงต้องกระทำด้วยสนามบินที่เสียหายหนัก

เหตุการณ์ต่างๆข้างต้นนั้นเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ยิ่งเข้าสัปดาห์ที่สองนั้นก่อนที่นานาประเทศจะมาช่วยเหลือได้ ก็ทำให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นนรกบนดิน ยิ่งกว่าในภาพยนตร์ซอมบี้สยองขวัญเรื่องไหนๆ ของโรเมโร่เสียอีก เรื่องเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะเกิดกับประเทศไทยไม่ได้ ยิ่งเมืองใหญ่ๆตามหัวเมืองต่างๆ ที่ผู้คนเกิดความเครียดสะสมจากการเมืองและเศรษฐกิจ และปัญหาความเกลียดชังกันทางความคิด ซึ่งจะปะทุขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หากแต่มีเหตุกาณ์อย่างในเฮติในประเทศเรา ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายมากมายจากเหตุที่ไม่อาจคาดคิดได้

ความไม่ประมาท และเตรียมพร้อมนั้น จะทำให้เรารอดพ้นเหตุกาณ์เลวร้ายไปได้ อย่างที่เราคงเคยได้ยินเรื่องของผู้รอดชีวิต จากเหตุการณ์ต่างๆนั้นก็เพราะเขามีความรู้เบื้องต้นในการเอาตัวรอด และการยังชีพ หากยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดในบ้านเรานั้น มีความรู้ที่ต้องนำมาใช้ เอาตัวรอดจากสถานการณ์ตามโจทย์ว่าเราต้องอยู่บน Condo 7  วัน โดยปราศจากไฟฟ้า และประปา เบื้องล่างเกิดการเผาทำลายและปล้นสะดมที่ควบคุมไม่อยู่  ซึ่งใน 7 วันนี้เรามีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อเอาชีวิตรอด ดังนี้

  • หาเพื่อน แน่นอนว่าคุณไม่ได้อยู่เพียงคนเดียวในบริเวณนั้นแน่ และมนุษย์เป็นสัตว์ที่เพิ่มความอยู่รอดด้วยการรวมกลุ่ม ในวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น การช่วยเหลือกัน ของคนที่ตกที่นั่งเดียวกันนั้น เป็นทางรอดที่ดีกว่าพยายามอยู่ด้วยตัวเองคนเดียว คนเหล่านั้นอาจเป็นครอบครัว เพื่อนของคุณ หรือคนข้างห้อง ก็ได้
  • รวบรวมข่าวสาร เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากไฟฟ้าดับ โทรศัพท์มือถืออาจใช้การไม่ได้ ควรติดวิทยุที่ใช้แบ็ตเตอรี่ หรือใช้พลังงานอื่นๆ ไว้บ้างเพื่อรับฟังข่าวสาร เช่น การอพยพ หรือที่ตั้งของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพภัย ให้ระวังข่าวลืออื่นๆจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้ อย่างคนที่ผ่านไปมา หรือการประกาศผ่านสื่อที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะจะทำให้เราประเมินสถานการณ์ผิดพลาด
  • วางแผนอพยพ เราคงเห็นสิ่งที่เกิดกับตึกเวิร์ลเทรดที่ราชประสงค์แล้ว นั้นเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความน่ากลัวของจลาจล ว่าแม้แต่อาคารขนาดใหญ่ที่มีการป้องกันเพลิงไหม้ดี ก็ยังเกิดเพลิงไหม้รุนแรง หรือถูกโจมตีได้ ดังนั้นเราจึงควรวางแผนที่จะหลบหนี ออกไปจากที่พักหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ควบคุมไม่ได้ ทั้งนี้เราควรจะมีเป้ใส่บัตรประจำตัว พาสปอร์ต ของที่จำเป็น และแบ่งอาหาร น้ำ ยา บางส่วนลงกระเป๋าสัมภาระที่พร้อมจะเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลาอยู่เสมอ
  • รวบรวมอาหาร และน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการดำรงชีพ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ

– น้ำ น้ำเป็นปัจจัยแรกในการดำรงชีวิต หากเราขาดน้ำ จะเกิดอาการวิงเวียน สมาธิสั้น ชีพจรเต้นเร็วและเหนื่อยง่ายเนื่องจากเลือดข้นขึ้น และหมดสติถึงตายได้ใน 3 วัน นอกจากน้ำที่เรามีในตู้เย็นแล้ว แหล่งน้ำบนอาคารสูงนั้นสามารถหาได้จากแทงค์บนดาดฟ้าตึก ซึ่งสามารถเก็บกักน้ำไว้กินดื่มได้นานหลายสัปดาห์ หากหาไม่ได้หรือเข้าไม่ถึงนั้น ให้เตรียมแหล่งน้ำฉุกเฉินโดยการเปิดน้ำไว้ให้เต็มอ่างอาบน้ำ หรือกรอกใส่ขวดสำรองไว้ทันทีที่เกิดข่าวจลาจล ซึ่งน่าจะมีให้ใช้ได้สักพักก่อนที่ระบบประปาจะหยุดทำงาน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าสำหรับปั้มน้ำ ซึ่งผู้เขียนขอแนะนำให้สะสมขวดน้ำแบบ PET ไว้ในกรณีที่จำเป็น ซึ่งน้ำประปาเองนั้นสามารถเก็บไว้ได้นานในที่แห้ง และไม่โดนแดด หากจำเป็นจริงๆ ให้ทุบท่อน้ำในระดับที่ต่ำกว่าก๊อกลงไป จะมีน้ำค้างในท่อซึ่งเพียงพอต่อการดำรงชีพได้สองสามวัน

อาหาร เป็นปกติที่ทุกห้องจะมีอาหารแห้งไว้อยู่แล้ว หากแต่ว่าถ้าเราเริ่มเตรียมการไว้ล่วงหน้า ก่อนเกิดเหตุที่มักมีข่าวความเคลื่อนไหวมาก่อน เช่น ภัยธรรมชาติ หรือจลาจล ก็จะสามารถหลบอยู่ในที่พักจนเหตุการณ์สงบได้ ทั้งนี้เราควรเตรียมวางแผนอาหารสำหรับใช้ดำรงชีวิต คือ ขั้นเตรียมการ ให้สังเกตสัญญาณของภัยธรรมชาติ หรือติดตามข่าวการชุมนุมที่มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรง เพราะในขั้นนี้เราต้องเตรียมวางแผน เพื่อการกักตุนสเบียงอาหาร และน้ำไว้ล่วงหน้าหลายวัน รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็น เช่น ไฟฉาย เทียนไข เทปกาว มีด กรรไกร อาจรวมไปถึงค้อน ตะปู และแผ่นไม้ในกรณีที่ต้องเสริมสร้างที่อยู่ให้แน่นหนาขึ้น หรือดัดแปลงเป็นอาวุธป้องกันตัว การเตรียมการเรื่องจำนวนและชนิดของอาหารนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาของสถานการณ์ต่างๆ คือ

ใน 3 วันแรก เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นคือ ไฟฟ้าดับรุนแรง จลาจล ประกาศภาวะฉุกเฉิน อาหารที่ใช้เป็นพวกอาหารแห้ง ที่ให้พลังงานสูง จัดเตรียมได้ง่าย และน้ำหนักเบา อย่างข้าวโอ๊ต ไข่ แป้งสาลี เนื้อตากแห้ง ข้าวโพดกระป๋อง ถั่วเขียว เกลือ น้ำตาล บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถั่ว ส่วนอาหารที่เก็บไว้ในตู้เย็นซึ่งส่วนใหญ่จะเสียภายใน 1-2 วันหลังจากไม่มีไฟฟ้าใช้ เราควรนำเนื้อแช่เย็นไว้ ออกมารับประทาน หรือแล่บางๆ ทาเกลือ แล้วตากแห้งเพื่อถนอมอาหาร พืชผักต่างๆควรถูกนำมาตากให้แห้ง เพื่อเก็บไว้ทานได้นานขึ้น หากสถานการณ์แย่ลงอาจจะถึง 1 สัปดาห์ให้วางแผนตามปิรามิตระยะที่สอง คือ

3 วัน – 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ที่ใช้เวลานานขนาดนี้ มักจะเป็นการเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรง โรคระบาด การรั่วไหลของสารพิษ ภัยสงคราม เป็นต้น ดั่งที่เกิดในเฮตินั้น เหตุการณ์กินเวลาไปถึง 1 เดือน แน่นอนว่าอาหารปกตินั้นหมดลงไปแล้ว เราต้องคิดถึงแหล่งอาหารที่สามารถหาได้จากแหล่งอื่นๆ และหาที่เก็บน้ำดื่มขนาดใหญ่ เช่น ถังใส่น้ำ ตุ่มพลาสติก เป็นต้น หากเป็นไปได้ให้จัดเตรียมอาหารสำเร็จรูปทางทหาร (Meal Ready to Eat – MRE) เพราะเก็บได้นานถึงสามปี

–  ยารักษาโรค อุปกรณ์การแพทย์ เราไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ภายใน 7 วันได้ว่าเราจะเผชิญเหตุการณ์อะไรบ้าง เราอาจบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ถูกทำร้าย หรือเจ็บป่วย ดังนั้นควรมียารักษาโรคเบื้องต้น และ อุปกรณ์ทางการแพทย์ไว้ในกรณีฉุกเฉินเช่น ยาแก้ไข้ แก้ปวด แก้ท้องเสีย ผงเกลือแร่ ยาใส่แผลสด พลาสเตอร์ ผ้าก๊อซ ผ้าพันแผล สายยางห้ามเลือด น้ำเกลือล้างแผล ไม้ดามเฝือก เข็มเย็บแผล และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ แอลกอฮอล์ล้างแผล และเครื่องมือ ซึ่งเราควรศึกษาวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้ สำหรับการช่วยเหลือตัวเองหรือผู้อื่นได้

–  การป้องกันที่อยู่อาศัย ที่อยู่อาศัยเปรียบเสมือนที่มั่นที่เราต้องรักษาไว้ ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าจะเกิดการปล้นสะดมตามมา เราควรพยายามป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ด้วยการเสริมการป้องกันประตูหน้าต่าง โดยใช้โต๊ะ หรือ ตู้กั้นไว้ เก็บของที่สามารถติดไฟไว้ห่างจากหน้าต่างและประตู สร้างอุปสรรคกีดขวางไม่ให้เข้ามาโดยง่าย ใช้ไม้กระดานหรือถ้าหาไม่ได้ ก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปิดหน้าต่าง และบานกระจกต่างๆ สุดท้ายให้เตรียมทางหนีฉุกเฉินเผื่อไว้ ในกรณีที่ต้องทิ้งที่มั่นของเรา

–  อาวุธป้องกันตัว อาวุธในที่นี้หมายถึงอาวุธโดยสภาพ เช่น มีด ปืน ไม้หน้าสาม ธนู และอาวุธสะแวงเครื่อง เช่น ไม้เบสบอล ไม้กอล์ฟ ขวดแก้ว  เก้าอี้ ถังดับเพลิง หลอดไฟ เป็นต้น ซึ่งเราต้องซ่อนไว้ในที่ต่างๆที่สามารถหยิบฉวยได้ง่าย และจดจำตำแหน่งของมันไว้ ทว่าสิ่งของต่างๆที่ดูธรรมดา ก็อาจกลายเป็นอาวุธได้ถ้ารู้จักใช้ อย่างเช่น กระบอกไฟฉาย ปากกาลูกลื่น สเปรย์ฉีดผม น้ำหอม กระป๋องน้ำอัดลม นาฬิกาข้อมือ ไปจนถึงผ้าเช็ดตัว และถุงขยะ ซึ่งหากรู้จักวิธีใช้ และสอนให้คนที่อยู่กับเราทราบแล้ว เราอาจปกป้องตัวเอง และที่อยู่ของเราจากอันตรายต่างๆได้ หากเตรียมพร้อมในการป้องกันที่พักเราแล้ว เราควรศึกษาถึงชนิดของที่กำบังต่างๆ ที่มีภายในบ้าน อย่างกองหนังสือ สามารถป้องกันกระสุนปืนได้ดีกว่ากำแพงอิฐ หรือใช้ตู้เย็นที่เครื่องกำบังกระสุนปืน เป็นต้น (ในทางกฎหมายแล้ว การป้องกันตัวโดยชอบนั้น สามารถทำได้เมื่อเกิดการบุกรุกโดยตั้งใจ ในยามวิกาล หรือผู้บุกรุกมีอาวุธ)

ในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น อาจกินเวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ แต่หากไม่ใช่เหตุการณ์ร้ายแรงระดับโลก อย่างในภาพยนตร์แล้ว ความช่วยเหลือจะมาถึงเราในไม่ช้า และไม่ว่าจะเป็นทางไหน เราควรทำเครื่องหมายบอกตำแหน่ง และข้อมูลเบื้องต้นไว้ในที่ๆสามารถมองเห็นได้ง่าย เช่น ใช้ผ้าปูเตียงทำเครื่องหมายสามเหลี่ยม แล้วห้อยไว้ที่ระเบียง หรือดาดฟ้าอันหมายถึงว่าต้องการความช่วยเหลือ จัดเตรียมอุปกรณ์ส่งสัญญาณแบบต่างๆไว้บนดาดฟ้า เช่น กระจกเงา นกหวีด คบไฟ หรือ พลุส่งสัญญาณ เตรียมถังใส่เสื้อผ้าชุบน้ำมันไว้ เตรียมพร้อมสำหรับการก่อไฟสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือ

ในการเอาตัวรอดสิ่งสำคัญที่สุดคือ สติปัญญา และการควบคุมอารมณ์ การท้อแท้ สิ้นหวังนั้นทำให้เปอร์เซ็นในการรอดชีวิตนั้นต่ำลง เราควรให้กำลังใจกันและกัน และรวมใจกันแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อฟันฝ่าเหตุการณ์เลวร้ายไปได้  แล้วไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติรูปแบบไหน เราจะต้องรอดไปได้อย่างแน่นอน

Safe House ขอขอบคุณทุกท่านที่ส่งเรื่องราวมาร่วมสนุก และทำให้เราได้มีโอกาสแบ่งปันสาระดีดีที่มีประโยชน์ให้แก่กัน

ติดตามกิจกรรมครั้งต่อไป ที่ทุกท่านร่วมสนุกได้ เร็วๆนี้ครับ

Tags:

Water Purification – ทำน้ำดื่ม ให้ปลอดภัย

การทำให้น้ำดื่มสะอาดถูกสุขลักษณะ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกาย มีัความสมดุลและแข็งแรง ในน้ำทั่วไปมีสิ่งมีชีวิตที่อาจนำโรคภัยมาสู่เรา ซึ่งสิ่งมีชีวิต 3 อย่างที่มักมากับน้ำ ที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ คือ 1.โปรโตซัว 2.แบคทีเรีย 3.ไวรัส วิธีทำให้น้ำสะอาดปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้ ทำได้หลายวิธี เราจะมาพูดถึงวิธีที่น่าจะเป็นประโยชน์และทำได้ง่าย

วิธีที่เห็นได้บ่อยที่สุดของการทำให้น้ำสะอาด ได้แก่ การต้มน้ำ คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าการต้มน้ำให้สามารถดื่มได้ ต้องต้มนานราวๆ 5-10 นาที ซึ่งไม่จำเป็นเสมอไป เพราะโดยทฤษฎีแล้ว น้ำจะเดือดที่อุณภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งเราทุกคนทราบดี แต่ในความเป็นจริง หากคุณเพียงต้องการกำจัดโปรโตซัวในน้ำ เมื่ออุณภูมิน้ำขึ้นสูงถึง 50 องศาเซลเซียส โปรโตซัวเกือบทุกประเภทก็จะตาย หากต้องการกำจัดให้มั่นใจ โดยยังคงต้มน้ำต่อไปให้น้ำมีอุณภูมิขึ้นถึง 100 องศาเซลเซียส ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 นาที เมื่อคุณเริ่มเห็นน้ำเดือด คุณก็สามารถปิดไฟและรอให้น้ำเย็น น้ำก็จะสะอาดพร้อมดื่ม และปราศจากโปรโตซัวแล้ว ไม่ต้องปล่อยให้น้ำเดือด พลุ่งพล่านเป็นเวลานาน เพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น

คลอรีน ก็เป็นอีกวิธีที่พบบ่อยในการทำความสะอาดน้ำ วีธีการคือในกรณีที่มีสารอินทรีย์ในน้ำ สารคลอรีนจะทำหน้าที่ เหมือนเกราะครอบสิ่งมีชีวิตนั้นไว้ ทำให้มันไม่มีฤทธิ์ต่อผู้ที่สัมผัส หรือดื่มมันเข้าไป แต่จุดอ่อนของคลอรีน คือ ไม่สามารถกำจัดสารหรือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ในน้ำได้ เช่น เมล็ดของพืช, สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ฯลฯ คลอรีนจึงไม่นิยมใช้ในกระบวนการทำให้น้ำสะอาด สำหรับงานภาคสนาม

ไอโอดีน เราจะพบเห็นได้บ่อย และเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าคลอรีน ไอโอดีนจะทำให้น้ำสะอาด แต่น่าเสียดายที่ไอโอดีนไม่สามารถฆ่าโปรโตซัว Cryptosporidium ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากในประเทศไทย (Cryptosporidium จะไม่ออกฤทธิ์ทันทีทันใดต่อร่างกาย แต่จะออกฤทธิ์ประมาณ 4 วัน หลังจากที่ดื่มเข้าไป ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง และออกฤทธิ์อยู่นาน 10 วัน) ไอโอดีนเหมาะที่จะใช้กับน้ำที่มีลักษณะใส ถ้าน้ำที่ขุ่นและมีสิ่งสกปรกปะปนอยู่ในน้ำ ต้องกรองด้วยผ้าก่อน (ในกรณีที่อยู่ในป่า สามารถใช้เสื้อผ้ากรองได้) แล้วจึงใส่ไอโอดีนในอัตราส่วน 4 หยดต่อน้ำหนึ่งลิตร และสามารถเพิ่มจำนวนได้ถึง 8 หยด ในกรณีที่น้ำขุ่นหรือค่อนข้างสกปรก และทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีก่อนที่จะดื่ม แต่ไอโอดีนมีกลิ่นฉุน ปัญหาเรื่องกลิ่นของไอโอดีนในน้ำ แก้ได้โดยคุณสามารถใส่วิตามิน C เม็ด ลงในน้ำหลังจากหยดไอโอดีนแล้ว 30 นาที เพื่อช่วยกลบรสชาติของไอโอดีนลง (ข้อควรระวัง! อย่าใส่วิตามิน C ลงในน้ำก่อน 30 นาที เพราะอาจทำให้ไอโอดีนออกฤทธิ์ไม่เต็มที่) การใช้ไอโอดีน เป็นการทำให้น้ำสะอาดปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัด คือ คนที่เป็นโรคไทรอยด์ หรือคนที่แพ้สารไอโอดีน และหญิงมีครรภ์ ไม่ควรดื่มน้ำที่ใส่ไอโอดีน และที่สำคัญที่สุด คือ ไอโอดีนไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าโปรโตซัว Cryptosporidium ในน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง

สารที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคที่นิยมนำมาใช้ในการทำให้น้ำสะอาด คือ คลอรีนไดออกไซด์ สารนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ในการประปาของเมืองต่างๆ คลอรีนไดออกไซด์ จะทำหน้าที่ 2 อย่างคือ 1.เพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ และ 2. ฆ่าเชื้อโรคสิ่งสกปรกที่มากับน้ำ เช่น ไวรัส, แบคทีเรีย และโปรโตซัว รวมไปถึงโปรโตซัว Cryptosporidium จึงเป็นวิธีที่นิยมที่สุด สำหรับการทำน้ำให้สะอาดพร้อมดื่มโดยเฉพาะในงานภาคสนาม

คลอรีนไดออกไซด์ ที่ใช้กันมีหลากหลายรูปแบบและขนาด ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ แต่ที่นิยมใช้ในงานภาคสนามเป็นประเภท คลอรีนไดออกไซด์ชนิดเม็ด Aquamira ของ McNett อัตราส่วนในการใช้งาน ได้แก่ 1 เม็ด ต่อน้ำ 1 ลิตร ในกรณีที่ใช้กับน้ำที่มีลักษณะใส อุณภูมิของน้ำอยู่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส เม็ด water purifier ของ Aquamira จะสามารถฆ่าแบคทีเรียและไวรัสทั้งหมดที่มากับน้ำ ภายใน 15 นาที และจะฆ่าโปรโตซัว รวมทั้งโปรโตซัว Cryptosporidium ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งเหมาะจะพกพา และเป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็น ของชุดอุปกรณ์ยังชีพ เมื่อคุณต้องทำงานในที่ห่างไกล หรือไม่มั่นใจในความสะอาดของน้ำดื่ม

ส่วนในกรณีของน้ำที่มีลักษณะค่อนข้างขุ่น และอุณภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ก็ต้องใช้เวลานานขึ้นก่อนที่จะสามารถดื่มได้ ในกรณีที่เป็นน้ำสกปรกและเย็นจัด อาจต้องใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง เพื่อให้ออกฤทธิ์เต้มที่ อุปกรณ์ที่ใช้ทำให้น้ำสะอาดพร้อมดื่ม ที่นิยมอีกประเภทหนึ่งได้แก่ ชุดกรองน้ำดื่มชนิดพกพา โดยส่วนมากวิธีการทำงาน คือ ใช้ตัวกรอง กรองสิ่งสกปรกและโปรโตซัวที่มีขนาดใหญ่ โดยการกรองร่วมกับเคมีบางชนิด ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่มีขนาดเล็ก ในส่วนของอุปกรณ์กรองน้ำนี้ เราจะพูดถึงในบทความครั้งหน้า คอยติดตามอ่านนะครับ

เกร็ดความรู้ของแถมสำหรับการดื่มน้ำให้ปลอดภัย น้ำที่ใส่ไว้ในกระติก, ถุงน้ำ หรือขวดน้ำ อาจจะดูว่าสะอาดปลอดภัย และผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดีแล้ว แต่อย่ามองข้ามน้ำจำนวนไม่กี่หยด ที่เกาะอยู่ภายในฝาขวดหรือฝากระติกน้ำ ซึ่งน้ำจำนวนไม่กี่หยดนี้ ก็สามารถทำให้คุณ หมดสนุกกับการเดินทาง เพราะเกิดอาการท้องเสียเฉียบผลันขึ้นได้ วิธีการแก้ไข คือ คว่ำกระติกหรือขวดลง แล้วค่อยๆเปิดฝาขวดออกทีละนิด เพื่อไล่น้ำสกปรกออก เมื่อเสร็จแล้ว ก็สามารถดื่มน้ำได้อย่างสบายใจแล้วครับ การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อตัวคุณเองครับ ใครสนใจ Aquamira ของ McNett และชุดกรองน้ำชนิดพกพา สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Safe House ครับ

Tags: , , ,

Hydration – ขาดน้ำ ดอกนะเจ้า ชีวาวาย

น้ำถือเป็นจุดก่อกำเนิดของชีวิตบนโลกใบนี้ ถ้าปราศจากน้ำ โลกใบนี้ก็คงปราศจากชีวิต ร่างกายของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 60% โดยที่เลือดมีน้ำเป็นส่วนผสมอยู่ 85% น้ำมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น ขับของเสียออกจากร่างกาย, ช่วยในการย่อยอาหาร และเป็นสารหล่อลื่นให้ข้อต่อต่างๆ หน้าที่สำคัญอีกอย่างที่ชัดเจนของน้ำต่อร่างกายเรา คือ น้ำช่วยควบคุมอุณภูมิในร่างกาย อย่างที่เราสังเกตได้ว่า เวลาร่างกายเกิดความร้อนจากการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมใดๆก็ตาม ร่างกายจะขับความร้อนออกมาทางเหงื่อ เพื่อช่วยให้อุณภูมิภายในเหมาะสมอยู่ตลอดเวลา

เปรียบเทียบน้ำในร่างกายคนเราเหมือนน้ำมันเชื้อเพลิง ร่างกายจะใช้น้ำ และระบายน้ำทิ้ง เป็นปริมาณมากและรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น ร่างกายคนสุขภาพปกติ 1 คน จะสูญเสียน้ำประมาณ 2 ถึง 3 ลิตร ต่อวัน 1/3 ของน้ำที่เสียไป มาจากการเข้าห้องน้ำ อีก 1/5 เราสูญเสียน้ำจากทุกครั้งที่เราหายใจ ส่วนที่เหลือจากการเสียเหงื่อ ในกรณีที่เราออกกำลังกายหนักๆ ร่างกายสูญเสียน้ำถึง 2 ลิตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

ทหารที่ขาดน้ำอย่างรุนแรง ขณะถูกนำส่งเพื่อรักษาฉุกเฉิน

หาเราไม่ใส่ใจกับเรื่องของการสูญเสียน้ำ อาจทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายได้ อาการของการสูญเสียน้ำระยะแรก จะสังเกตุได้ง่ายๆ เช่น ริมฝีปากแห้ง, ปัสสาวะเป็นสีเข้มกว่าปกติ และมีอาการกระหายน้ำ หากขาดน้ำขั้นรุนแรงอาจทำให้มีอาการเหนื่อยล้า, อาการงุนงงสับสน, คลื่นไส้อาเจียน, ช็อค และอาจอันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ได้รับการรักษาโดยทันที

คุณจะสังเกตได้อย่างไรว่า คุณมีอาการขาดน้ำ คำตอบคือ เกือบทุกคนจะมีอาการขาดน้ำระยะแรก  เนื่องจากคนส่วนใหญ่ ดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สังเกตได้ง่ายๆ จากสีของปัสสาวะ ซึ่งปกติควรจะเป็นสีอ่อนและใส ให้สังเกตว่าถ้าสีเข้มขึ้น นั่นคืออาการเบื้องต้น หรือบางครั้งอาจมีอาการเวียนศีรษะ หรือเหนื่อยล้าร่วมด้วย

สำหรับในกรณีของทหาร อารการขาดน้ำระยะเบื้องต้น ก็อาจส่งผลถึงชีวิตได้ เนื่องจากการขาดน้ำ ทำให้การตอบสนองช้าลงกว่าปกติ และอาการผิดปกติในการสั่งงานของสมอง ทำให้เกิดความสับสน ผลจากการทดสอบกับสัตว์ในห้องทดลอง ทำให้รู้ว่าอาการขาดน้ำ ส่งผลให้อัตราการตายจากการได้รับบาดเจ็บสูงกว่าปกติถึง 30%

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น หากทหารที่มีอาการขาดน้ำ มีความเสี่ยงในการเสียชีวิต จากบาดแผลถูกยิงสูงกว่าทหารที่ดื่มน้ำเพียงพอถึง 30% อย่าคิดว่าการอดน้ำ เป็นการฝึกความอดทน ทำให้เราเป็นคนแข็งแกร่ง จริงๆแล้วเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการ กองทัพพยายามแสวงหายุทโธปกรณ์ ที่มีอานุภาพสูง และราคาแพงให้กับทหาร ทำให้มองข้ามสิ่งสำคัญ และทำได้ง่ายที่สุดไปคือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ

การรักษาที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่เกิดปัญหาขึ้น เริ่มด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ กับที่ร่างกายสูญเสียไป  เราสามารถเริ่มด้วยการดื่มน้ำอย่างน้อย ½ ลิตร ตอนตื่นนอน เพื่อทดแทนกับน้ำ ที่เราสูญเสียไปขณะที่เราหลับ และทุกวันเราควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1 ลิตร ต่อน้ำหนักตัว 30 กิโลกรัม หรือประมาณ 2-3 ลิตร ต่อวัน ในกรณีที่เราออกกำลังกาย ควรเพิ่มปริมาณน้ำที่ดื่มอีก 0.25 ลิตร ต่อเวลา 15 นาทีที่ออกกำลังกาย ตัวเลขโดยเฉลี่ย ที่กล่าวมาเพียงแค่บอกให้เรารู้ว่า ต้องดูแลร่างกายของเราเองยังไงบ้าง แต่คุณจะปฏิบัติตามหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความใส่ใจและความห่วงใยในสุขภาพของตัวคุณเอง

Tags: