อุปกรณ์ที่มีมาให้ในชุด
“น้ำ” โดยปกติแล้วในร่างกายของคนเรานั้น มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 2 ใน 3 ส่วน และอวัยวะสำคัญต่างๆก็ล้วน แต่มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก เซลล์ทุกเซลล์ ระบบเลือด น้ำเหลือง ปัสสาวะ น้ำลาย ฯลฯ ล้วนแต่ต้องการน้ำ เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายขาดน้ำ ความสามารถในการถ่ายเทความร้อนก็จะลดลง โดยปกติความร้อนในร่างกาย จะระบายออกทางผิวหนัง เช่น เมื่อเราเล่นกีฬา ความร้อนจะระบายออกเป็นเหงื่อ เมื่อร่างกายมีน้ำไม่เพียงพอ สมองก็จะเริ่มทำงานผิดปกติ ผู้ที่ขาดน้ำอย่างรุนแรง จะมีอาการที่เรียกว่า Heat Stroke หรืออาการที่ร่างกายไม่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
ในภาวะปกติแน่นอนว่า เราสามารถที่จะหาน้ำสะอาดๆดื่มได้ไม่ยากครับ เช่น เมื่ออยู่บ้านก็แค่เปิดตู้เย็น หรือเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ก็มีขายเต็มไปหมด แต่ถ้าเป็นภาวะที่ไม่ปกติ เช่น น้ำท่วม, ภัยธรรมชาติ, เดินทางไกลไม่มีร้านค้า หรือกำลังหลงทางก็ตาม การหา “น้ำสะอาด” ที่จะใช้ดื่มก็จะเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที และในภาวะฉุกเฉินแบบนั้น เราคงต้องพึ่งตัวเองเป็นอันดับแรกครับ เพราะกว่าความช่วยเหลือจะเข้าถึงพื้นที่ได้ ก็ไม่แน่ว่าเราจะรอได้หรือไม่ หรือแม้แต่คิดว่าจะขอความช่วยเหลือจากที่ไหน
Bite Valve หรือส่วนที่ใช้ปากกัดเพื่อดูดน้ำ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นอยู่เสมอ ก็คือในการลาดตระเวนระยะไกล หรือการเดินเท้าลาดตระเวนในป่า ของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ คือ การแบกน้ำดื่มเข้าป่าทีละหลายๆขวด ซึ่งการแบกน้ำไปด้วยนั้น นอกจากจะทำให้เป้หนักมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เดินได้ช้า และอาจเกิดอุบัติเหตุจากการบรรทุกสัมภาระ ในขณะที่ต้องปีนป่ายได้ง่าย รวมถึงยังเหนื่อยเร็วขึ้นอีกด้วย นี่ยังไม่นับรวมถึงหลังและเอว จะต้องรับน้ำหนักของน้ำและอุปกรณ์ที่นำพาไปด้วยอีก ซึ่งต่อคนนั้นอุปกรณ์ประจำตัว จะมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 กก. ทำให้ทั้งปวดหลังและกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนที่ภารกิจจะสำเร็จด้วยซ้ำ แม้ว่าท่านจะต้องฝึกความอดทน แต่การมีอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ การจัดการน้ำดื่ม เป็นเรื่องง่ายขึ้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมการทำงานให้ดีขึ้น
เพราะในยามที่ต้องพึ่งตนเองในการหา “น้ำดื่มที่สะอาด” ผมจึงอยากแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กรองน้ำประจำตัว Aquamira Frontier Pro Military หลอดกรองน้ำแบบพกพา ซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุดครับ เนื่องจากมีความสามารถในการกรองน้ำได้มาก ในขนาดที่เล็กเท่าฝ่ามือ และน้ำหนักเบาเพียง 56 กรัม ทำให้พกพาไว้ในกระเป๋าเดินทาง, เป้ หรือกระเป๋ากางเกงได้ โดยไม่สร้างภาระในเรื่องของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเลย และยังมีโครงสร้างที่ทนทาน ออกแบบมาเฉพาะเพื่อพร้อมใช้งานในภาคสนามซึ่งมีสภาพแวดล้อมรุนแรงอีกด้วย
ในยามจำเป็น Frontier Pro military สามารถกรองน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้
ในการกรองน้ำจากขวดน้ำดื่ม ขั้นแรกผมลองใช้ Frontier Pro Military ต่อตรงเข้ากับขวดน้ำทั่วๆไปครับ ขนาด 28 มม. มีเกลียว 3 ชั้น โดยการหมุนชุดสำหรับต่อ เข้ากับถุงน้ำที่อยู่ตรงปลายสุดของหลอดออกก่อน แลัวหมุนเกลียวต่อกับขวดน้ำที่นำมาทดลอง ปรากฏว่าสามารถหมุนเข้าได้อย่างดาย แทบไม่ต้องออกแรงอะไรเลย แต่ถ้าเป็นขวดน้ำที่มีเกลียว 1 ชั้น จะไม่สามารถหมุนเข้าได้นะครับ เพราะจำนวนเกลียวจะไม่พอดี
หลังจากนั้นก็ลองดูดน้ำผ่านหลอดกรองนี้ดู ก็สามารถดูดได้ครับ แต่ต้องออกแรงดูดซักหน่อย หรือถ้าต้องการต่อเข้ากับถุงน้ำ ก็ทำได้ไม่ยากครับ เพราะ Frontier Pro Military จะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า UQC (Universal Quick Connect) ซึ่งมีลักษณะเป็นจุกยางสีดำอยู่ที่บริเวณปลายล่างสุดของหลอด โดยผมจะลองต่อเข้ากับถุงน้ำของ Camelbak แต่ก่อนที่จะต่อเข้าไป ต้องถอดตัว UQC ออกก่อนนะครับ จึงจะสามารถต่อเข้ากับถุงน้ำของ Camelbak ได้ ส่วนถุงน้ำของ Nalgene และ Source ไม่จำเป็นต้องถอด UQC ออกครับ สามารถใส่เข้าไปได้เลย หรือสามารถใช้หลอดพลาสติกยาว 8 นิ้ว ที่แถมมาให้ในชุด ต่อเข้ากับหลอดกรอง แล้วดื่มน้ำจากเเหล่งน้ำที่เราพบได้โดยตรงเลย ก็สามารถทำได้ครับ
วิธี Gravity Filter หรือการกรองน้ำโดยใช้แรงโน้มถ่วง
ที่นี้ก็มาถึงวิธี gravity filter หรือการกรองน้ำโดยใช้แรงโน้มถ่วงครับ โดยการนำเอาถุงน้ำ ต่อเข้ากับหลอดกรองน้ำ ถอดจุกยางสีดำบริเวณวาล์วน้ำสำหรับดูดออก (ตรงที่เราใช้ปากกัดตอนดูดน้ำนั่นล่ะครับ) ถอดออกได้เลย แล้วนำไปแขวนไว้บนที่สูง เช่น กิ่งไม้ เพื่อให้น้ำไหลลงผ่านหลอดกรองน้ำ ไปยังภาชะเก็บน้ำที่เราเตรียมไว้ โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย
แต่วิธีนี้จะได้น้ำที่กรองทีละนิด และใช้เวลานานครับ เพราะน้ำจะค่อยๆไหลผ่านตัวกรองอย่างช้าๆ เช่น หากต้องการใช้น้ำ 1 ลิตร จะใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นวิธีนี้ จึงเหมาะสำหรับเมื่อคุณไม่ต้องการน้ำอย่างเร่งด่วน เช่น แขวนไว้ในเต้นท์ก่อนนอน เพื่อให้กรองน้ำได้หมดในตอนเช้า แต่ถ้าต้องการน้ำสะอาดไว้ดื่มทันที ก็ให้เลือกเอาภาชนะสำหรับใส่น้ำ ที่คุณสามารถบีบได้ เช่น ถุงน้ำ หรือขวดน้ำขนาดกลางๆ มาสวมตัวกรองจะดีกว่าครับ เพราะเราจะสามารถบีบ เพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำให้เร็วขึ้นได้ แม้จะไม่มากนักแต่ก็เร็วกว่า การใช้วิธี gravity filter ครับ
ไส้กรองของ Frontier Pro Military สามารถกรองน้ำได้ มากกว่า 190 ลิตรต่อไส้กรอง 1 อัน แถม Aquamira ยังให้ไส้กรองสำรองมาอีก 4 อัน นั่นหมายความว่า เราจะสามารถกรองน้ำได้ ถึง 760 ลิตรเลยทีเดียว เรียกว่าใช้งานได้นานเป็นปีครับ (ปกติคนเราดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร) โดยจะกรองได้ทั้ง โปรโตซัว, แบคทีเรีย, ไข่แมลงวัน, ไข่ยุง หรือสารแขวนลอยอื่นๆ โดยเฉพาะโปรโตซัว ชนิดไกอาร์เดีย (Giardia) ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคท้องร่วงได้ และหลังจากใช้งานแล้วทุกครั้ง ควรที่จะนำเอาไส้กรองออกมาตากแดด เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก ที่ถูกไส้กรองดักไว้ครับ
(ซ้าย) น้ำในแก้วผ่านการกรองจาก Frontier Pro military (ขวา) น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
โดยรวมแล้ว Frontier Pro military นับว่ามีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง และใช้งานง่าย สามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ได้หลายๆแบบ ทำให้สามารถปรับใช้ ร่วมกับอุปกรณ์ที่เรามี หรือหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำพลาสติกที่ขายกันทั่วๆไป หรือถุงน้ำสำหรับพกพา เพื่อดื่มในระหว่างเดินทาง หรือจะใช้หลอดดูดน้ำจากแหล่งน้ำโดยตรงหากจำเป็น (ควรใช้ร่วมกับคลอรีนไดออกไซด์ชนิดเม็ด Aquamira ของ McNett) เช่น แม่น้ำ, ลำธาร, น้ำคลอง ก็ทำได้ครับ แต่ก็ควรเลือกแหล่งน้ำ ที่แน่ใจว่าไม่มีสารเคมี หรือมูลสัตว์เจือปนนะครับ เพราะการกรองด้วย Frontier Pro Military เพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถกรองสารเคมี และเชื้อโปรโตซัว Cryptosporidium ที่มากับของเสียจากสัตว์ได้ครับ
การดูดน้ำผ่านหลอดกรอง น้ำไหลผ่านตัวกรอง จึงต้องออกแรงดูดซักหน่อยครับ ส่วนรสชาติและสีของน้ำ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แต่ก็คงไม่ถึงกับใสปิ๊ง เหมือนน้ำดื่มบรรจุขวด ซึ่งกรองจากเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ แต่น้ำที่กรองแล้ว ก็ทำให้คุณสามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะในกรณีที่เจอแหล่งน้ำ ที่สงสัยว่ามีเชื้อโรคล่ะก็ นอกจากการใช้ Frontier Pro Military แล้ว ผมแนะนำให้ใช้เม็ดยาฆ่าเชื้อ สำหรับน้ำดื่ม Aquamira Water Purification ร่วมด้วย เพื่อใช้งานร่วมกัน เพื่อช่วยให้น้ำที่ได้ ปลอดภัยปราศจากเชื้อโรคครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และเป็นเจ้าของหลอดกรองน้ำ Frontier Pro Military และผลิตภัณฑ์การทำน้ำดื่มให้สะอาดแบบพกพา ของ McNett ได้แล้ววันนี้ที่ Safe House ครับ
