fbpx

Archive for category Review

อวดโฉมมีดพับรุ่นแรกของ ESEE/DPx HEST Folder

The ESEE DPx H•E•S•T Survival Tool / Folding

หลังจากที่ ESEE (อ่านตามผู้ผลิตแจ้งไว้ว่า เอส-อี ,เป็นการออกเสียงภาษาสเปนนิส) เปิดตัวมีด HEST fix blade ออกมาเมื่อปี 2552 ESEE ก็ได้เริ่มพัฒนามีด Survival ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานอย่างกว้างขวางมากขึ้น ด้วยการขยายสายการผลิตออกเป็น ESEE/DPx ที่ย่อมาจาก Dangerous Places Xtreme เพื่อให้เป็นมีด ที่ทนต่อสภาพแวดล้อมรุนแรงทุกรูปแบบ

ล่าสุด ESEE เตรียมออก DPx H•E•S•T folder ซึ่งนับเป็นมีดพับรุ่นแรก ที่ตั้งใจผลิตให้เป็นทางเลือกของกลุ่มคนรักมีด Survival ด้วยขนาดที่กะทัดรัด เรียบง่าย Low profile พกพาสะดวก ตามคำเรียกร้องของแฟนคลับ ESEE ที่เฝ้ารอมีดพับกันมานาน DPx H•E•S•T folder มีกำหนดออกจำหน่ายปลายปี 53 นี้ครับ

DPx H•E•S•T folder เปิดตัวด้วยสุดยอดการดีไซน์ และการคัดสรรวัสดุ ที่จะทำให้ HEST เปลี่ียนโฉมอย่างสวยสดงดงาม เป็นที่กล่าวขานไปทั่ววงการคนรักมีด เพราะนอกจากความสวยแล้ว ยังทนทานและใช้งานได้สารพัดประโยชน์ ตามแรงบันดาลใจในการออกแบบ HEST รุ่น fix blade ที่ยังคงเค้าเดิม แต่กลายพันธุ์เป็นมีดพับในแบบฉบับ DPx H•E•S•T folder สำหรับวันนี้ รับชมภาพไปพร้อมๆกันก่อนนะครับ (ติดตามอ่านเรื่องราวของ HEST fix blade ได้ใน HEST Fixed Blade เพื่อเข้าใจ HEST ได้ดียิ่งขึ้นครับ)

สำหรับรายละเอียดเท่าที่จะบรรยายได้ของ DPx H•E•S•T folder ตามข้อมูลล่าสุด ESEE เลือกใช้ระบบเปิดแบบ frame lock, ใบมีดทำจากเหล็ก D2 แกร่งและทนทาน, ลงลายเซ็น RYP (Robert Young Pelton) ไว้ที่สันมีด, ส่วนเว้าบนสันมีด นอกจากจะใช้เป็นที่เปิดขวดแล้ว ยังเป็นช่องเว้าที่ช่วยให้เปิดมีดได้ทันที จากการเกี่ยวเข้ากับขอบกางเกงเมื่อต้องการเปิดใช้อย่างรวดเร็ว, ด้ามจับทำจากวัสดุ 2 เนื้อ โดยฝั่งที่ใช้เป็นก้านล็อค ทำจาก solid Titanium alloy เปิดมีดได้โดยกดที่ตัวด้ามจับ, อีกฝั่งจะเป็น G10 ซึ่งสั่งทำพิเศษ แตกต่างจากคุณสมบัติ G10 ทั่วไป ลดข้อเสียของ G10 เดิม โดยเพิ่มคุณสมบัติกันลื่นเมื่อด้ามจับเปียกน้ำ และพิเศษขึ้นไปอีกขั้นด้วย Rotoblock ซึ่งเป็นจุดหมุนเพื่อเปลี่ยนมีดให้เป็นโหมด Fix blade ได้ในอึดใจ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะจดสิทธิบัตรแล้วจาก Lion Steel, ปลายมีดก็มีลูกเล่นเป็นปุ่มกระแทกกระจก (glass breaker) ที่สามารถถอดเปลี่ยนหัวได้ และมีหมุดหัวเรียบมาให้อีก 1 ชิ้นไว้หมุนหรือขันน็อตแบบไขควงได้ด้วย, ส่วนด้ามมีดยังคงมีโลโก้ Mr. DP Skull (กะโหลกเริงร่า อ้าปากกว้าง) ฝังลายอยู่เช่นเดิม, รูร้อยเชือกตรงสันด้าม ยังทำหน้าที่เป็นช่องสอดประแจขนาดมาตรฐาน ใช้หมุนหรือขันน็อตได้อีก แทนที่จะเป็นรูกลมธรรมดาแบบมีดทั่วไป, ในชุดยังมีเครื่องมือหมุนและปรับมีดแบบ multi-tool มาให้ด้วยครับ

นับว่า ESEE ให้ความสำคัญกับการออกแบบ และใส่ใจในรายละเอียดทุกจุด โดยเฉพาะการผลิตที่ต้องอาศัย ทั้งความชำนาญและความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง หลังจากการเฟ้นหาโรงงานที่มีขีดความสามารถ ในการสร้าง DPx H•E•S•T folder ให้เป็นไปตามข้อกำหนดตามแบบฉบับของ ESEE ก็มาลงตัวที่ Lion Steel ผู้ผลิตมีดมือทองจากอิตาลี ซึ่งมีรางวัลผู้ผลิตมีดพับชนิดไทเทเนียมการันตีคุณภาพ ทำให้ ESEE/DPx H•E•S•T folder เตรียมออกสู่สายตา และให้เราได้เป็นเจ้าของในอีกไม่นานเกินรอ

DPx H•E•S•T folder เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งของ Robert Young Pelton, Jeff Randall และ Mike Perrin บนพื้นฐานประสบการณ์ของ Pelton’s ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่เขาได้พบเห็นมาแล้วทั่วโลก โดยมีดของ ESEE ทุกรุ่น กล้ายืนยันด้วยบริการหลังการขายสุดประทับใจ ให้กับลูกค้าทุกคนที่ครอบครอง กับการรับประกันตลอดชีพ โดยไม่ถามและไม่มีเงื่อนไข เปลี่ยนใหม่ให้ทันที หากมีดชำรุดจนใช้งานไม่ได้ และสบายใจได้ครับว่า Safe House ส่งมอบนโยบายนี้ให้กับผู้ซื้อ ESEE ทุกท่าน ในฐานะตัวแทนผู้ผลิตในประเทศไทยเช่นกัน

กำหนดประมาณการณ์จำหน่าย ปลายเดือนธันวาคมนี้ ESTIMATED DELIVERY – December 2010

คุณลักษณะเฉพาะ :

  • D2 Tool Steel Blade
  • Titanium Titanium 6Al4v GR.5 alloy frame
  • Patented Lion Steel Rotoblock System
  • G10 handle scale
  • Removable glass breaker (comes with replacement smooth head screw).
  • Special Mr DP Skull Tool adjustment wrench / multi-tool for adjusting RotoBlock, pivot and glass breaker removal tool.

ขนาด DIMENSIONS :

  • ด้ามจับไม่รวมตัวเหน็บ : 0.541”
  • ความหนาของใบมีด (Max) : 0.187”
  • ความยาวรวม (ไม่รวมปุ่มกระแทกกระจก) : 7.625”
  • ความยาวเมื่อพับเก็บ (ไม่รวมปุ่มกระแทกกระจก) : 4.38”
  • ความยาวเฉพาะด้าม : 3.80”
  • ความยาวของคมมีด : 3.10”
  • ความหนาของด้าม Titanium frame : .140”
  • ความหนาของด้าม G10 : .140”
  • น้ำหนักรวม : ยังไม่สามารถระบุได้ครับ

เท่าที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ ยังไม่สรุปแบบได้ชัดเจน 100% นะครับ ซึ่งถ้าของจริงหน้าตาต่างไปจากภาพเล็กน้อย ก็อย่าแปลกใจนะครับ

อาจมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงเพิ่มเติม เรียกว่าปรับกันจนกว่าจะสะใจคนสร้าง หรือจนกว่าจะพร้อมจำหน่ายนั่นแหละครับ

Safe House ได้ขอสั่งพิเศษ เพื่อประเดิม DPx H•E•S•T folder ชุดแรกในเมืองไทยไปแล้วครับ

ถ้ามาถึงมือเมื่อไหร่ หรือมีข้อมูลเพิ่มเติม ผมจะรีบแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันครับ อดใจรอกันอีกนิดนะครับ 😉

Tags: , , , , , , , , ,

Mission Go Bag กระเป๋าเพื่อภารกิจพิเศษจาก S.O. Tech

กระเป๋า Go bag สะพายไหล่กัปตัน เลนน็อกซ์

เมื่อพูดถึง S.O.Tech (เอส โอ เทค) คงเลี่ยงที่จะพูดถึง กระเป๋า Go bag ในหนังเรื่อง Transformer ภาค 1 ในช่วงปี 2007 ไม่ได้ เพราะกระเป๋าที่ไปปรากฏติดตัว กัปตัน เลนน๊อกซ์ ทหารในเรื่องซึ่งแสดงโดย Josh Duhamel (จอร์จ ดูฮาเมล) นั้น โดดเด่นและเป็นที่ถามหา และเข้าตาบรรดาผู้ชื่นชอบกระเป๋าทหารเป็นอย่างมาก ด้วยรูปทรงที่แปลกตา ทันสมัย ฉีกออกไปจากกระเป๋าทหารแบบเดิมๆ จึงกลายเป็นแฟชั่นไปโดยปริยาย และยิ่งตามไปถึงที่มาและผู้ผลิตด้วยแล้ว ก็ยิ่งมั่นใจใน S.O.Tech ยิ่งขึ้น เพราะคุณภาพและการออกแบบ ซึ่งมาจากทหารและหน่วยรบผู้ใช้งานจริง รวมไปถึงเจ้าของบริษัทอดีตทหารอย่าง Jim Cragg เช่นกัน

SO Tech

จากความโด่งดังของ Go bag ในซีรี่ส์แรก ทำให้แนวคิดการทำกระเป๋า ที่เหมาะแก่การใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถใช้ได้หลากหลายโอกาส ในขนาดที่กำลังดี เป็นแนวทางให้เกิด Go bag รุ่นอื่นๆตามมา

โดยเมื่อปี 2009 S.O. Tech ได้รับความไว้วางใจจาก USSOCOM (United States Special Operations Command) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมหน่วยรบพิเศษทุกหน่วย ในประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ผลิตกระเป๋า Mission go bag ซึ่งเป็นกระเป๋าที่ออกแบบให้กับหน่วยปฎิบัติการพิเศษของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ เพื่อเป็นกระเป๋าอุปกรณ์ปฐมพยาบาล สำหรับสีกระเป๋าซึ่งค่อนข้างหายากจะเป็นสี Coyote brown ที่นำมารีวิวกันนี่ครับ

ตัวกระเป๋าผลิตจากวัสดุที่มีความทนทานสูง ด้วยผ้า Cordura ไนลอนเคลือบกันน้ำอย่างดี การตัดเย็บที่แน่นหนาตามมาตรฐาน MIL-Spec มี MOLLE ที่ด้านนอกจำนวน 2 แถว เพื่อสามารถติด Pouch และอุปกรณ์เสริมชนิดต่างๆ เพื่อความหลากหลายในภารกิจที่แตกต่างกัน ตัวเกี่ยวล็อคต่างๆ (buckle) ใช้ของ  ITW (ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า โพลิเมอร์ของ ITW ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี มีความเหนียวและทนทานสุดๆ แถมยังเป็นเจ้าของผลิตภัณที่คุณหน้าคุ้นตา เช่น Grimlock, Tac link, Nexus Blast Buckle ฯลฯ) พร้อมซิปชนิด heavy duty ขนาดใหญ่และทนทาน หูซิปเสริมที่จับเปิดซิป ทำจากยางสังเคราะห์ขนาดใหญ่ สะดวกในการจับและรูดเปิดปิด ชนิดที่เรียกว่าแม้ว่าจะใส่ถุงมือก็ยังเปิดและปิดกระเป๋าได้สะดวก แถมข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ บางจะช่วยลดเสียงกระทบกันของตัวหูซิปโลหะ เวลาที่ต้องเคลื่อนที่ได้เป็นอย่างดี บริเวณหน้ากระเป๋า มีแถบ Velcro 2 จุด สำหรับติด Patch และเครื่องหมายต่างๆ หรือติดสายของหูหิ้วไม่ให้แกะกะได้อีกด้วย

ด้านหลังมีช่องสำหรับเก็บสายสะพาย (จะเห็นว่ามีแผ่นโฟมสำหรับกันกระแทกแถมมาให้ด้วย) และสามารถใส่ Bladder หรือถุงน้ำขนาด 75 cc. โดยที่สายสำหรับดูดน้ำของ Bladder สามารถพาดมาเป็นแนวเดียวกับสายสะพาย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีมากทีเดียว ตรงกลางด้านหลังของกระเป๋า มีวัสดุซึ่งทำจากยางสีเดียวกับตัวกระเป๋า ช่วยทำหน้าที่สำหรับกันการลื่นหรือกระเป๋าสะบัดไปมา ในเวลาที่ใช้กระเป๋าแนบตัวขณะเคลื่อนไหว

ด้านในประกอบไปด้วยช่อง 4 ช่องพร้อมยางยืดและหัวล็อคชนิดรูด สำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็น เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับงานภาคสนาม, บรรจุแมกกาซีน 5.56 ได้ 4  อัน หรือแม้กระทั่งของใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ช่องในด้านหน้ามีแถบ Velcro ขนาดใหญ่ สำหรับติดกับสายรัดปืนพก

การออกแบบกระเป๋าและเป้สำหรับทหารนั้น ต้องคำนึงผลประโยชน์ในการใช้สูงสุด ทั้งความสะดวกสบาย ความคล่องตัวในการใช้งาน และความทนทาน ซึ่ง S.O.Tech ได้ผสมผสานคุณสมบัติความเป็นกระเป๋าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และกระเป๋าที่ใช้งานสมบุกสมบัน ทำให้ S.O.Tech Mission Go bag สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้งสะพายด้านข้าง, เป็นกระเป๋าคาดเอว, กระเป๋าสะพายด้านหลัง, กระเป๋าติดที่ตัวเวส ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมในการใช้งาน และยังทันสมัยด้วยขนาดและรูปทรง ที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป แต่ก็สามารถใช้ในงานทางด้านยุทธวิธีได้ มีแถบ MOLLE สำหรับใส่หรือยึดเกาะอุปกรณ์เสริม ซึ่งผมได้ลองนำกระเป๋าหรือ pouch แบบต่างๆ มาติดให้ดู เช่น กระเป๋าแบบต่างๆ หรือซองวิทยุ ฯ ได้ที่ด้านหน้า ดังนั้น Mission Go bag จาก S.O.Tech จึงเป็นกระเป๋าที่ลงตัวและคุ้มค่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ใช้ปฎิบัติงานจริง และบุคคลที่ชื่นชอบอุปกรณ์ทางสาย Tactical อย่างที่สุดครับ สำหรับ Go bag ของ S.O.Tech ทุกรุ่น มีจำหน่ายแล้วที่ Safe House ครับ

Tags:

ทดสอบยิงปืนด้วยถุงมือ EOTAC : Duty glove VS Air Operation Glove

Safe House ได้รับเกียรติจากเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมทดสอบการยิงปืนสั้นและปืนยาว โดยใช้ถุงมือที่ออกแบบเพื่อการยิงปืนโดยเฉพาะของ EOTAC รุ่น Duty glove เปรียบเทียบกับการยิงปืนด้วย ถุงมือโรยตัว Air Operation Glove เพื่อดูความแตกต่างของกลุ่มกระสุน และความรู้สึกสัมผัส ของถุงมือแต่ละประเภท ว่าจะส่งผลต่อความแม่นยำในการยิงปืนหรือไม่

EOTAC : Duty Glove ถุงมือยิงปืนชนิดข้อสั้น / ถุงมือโรยตัว Air Operation glove

ถุงมือแต่ละประเภท มักจะถูกออกแบบและเลือกใช้วัสดุ เพื่อตอบสนองการใช้งานนั้นๆ และถุงมือแต่ละประเภท ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น ถุงมือโรยตัว โดย

มากจะเลือกใช้วัสดุที่ทนความร้อนสูง มีการเสริมวัสดุช่วงฝ่ามือและนิ้ว ให้สามารถป้องกันความร้อนได้ดี ส่วนถุงมือยิงปืน มักจะเลือกวัสดุที่บางแต่ทนทาน และเน้นการให้สัมผัสที่กระชับมั่นคง และต้องไม่ลดทอนความสามารถ ในการยิงปืนของผู้ใช้ เป็นต้น

การทดสอบครั้งนี้ มาจากเหตุผลในการเลือกใช้ถุงมือเพื่อปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องยอมรับว่า ในบางครั้งเจ้าหน้าที่ต้องทำงานที่หลากหลายในหนึ่งภารกิจ เช่น โรยตัวลงจากหอสูง, ตึกหลายชั้น หรือจากเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเข้าที่หมาย ต่อด้วยการยิงปืน หรือจับอาวุธฯ

ทำให้หลายครั้ง เมื่อโรยตัวลงมาแล้ว ต้องถอดถุงมือทิ้ง เพราะจับอาวุธด้วยถุงมือโรยตัวไม่ถนัด หรือจะใช้ถุงมือยิงปืนอย่างเดียวก็เกรงว่าจะโรยตัวไม่ได้ทำให้เจ้าหน้าที่หลายท่าน มักจะเลือกพิจารณาถุงมือโรยตัว แทนการใช้ถุงมือที่ออกแบบมาเพื่อยิงปืนโดยเฉพาะ

ด้วยเหตุนี้ เราจึงเกิดความสงสัย ในผลของการใช้ถุงมือโรยตัวในการยิงปืน กับการใช้ถุงมือยิงปืนโดยเฉพาะ ว่าจะมีผลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ ซึ่งเราได้รับเกียรติจากครูฝึกยิงปืน ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ในการร่วมทดสอบ ให้เราได้เห็นกันชัดๆ

สรุปผลการทดสอบถุงมือโรยตัว Air Operation Glove และถุงมือ EOTAC Duty glove ดังนี้

EOTAC : Duty Glove ถุงมือยิงปืนชนิดข้อสั้น / ถุงมือโรยตัว Air Operation glove

1.การสวมใส่

เมื่อใส่แล้ว EOTAC รุ่น Duty glove จะให้ความรู้สึกกระชับมือดีกว่า เมื่อเทียบกับถุงมือ Air Operation เนื่องมาจากวัตถุประสงค์ลักษณะของการใช้งาน ที่ผิดกัน ส่วนของ Air Operation glove นั้น เมื่อใส่แล้วจะรู้สึกหนากว่ามาก ทำให้ไม่คล่องตัว

EOTAC : Duty Glove ถุงมือยิงปืนชนิดข้อสั้น / ถุงมือโรยตัว Air Operation glove

EOTAC : Duty Glove ถุงมือยิงปืนชนิดข้อสั้น / ถุงมือโรยตัว Air Operation glove

2.ทดสอบยิง

เมื่อยิงปืนสั้นโดยใช้ Air Operation glove จะทำให้การสัมผัสระหว่างนิ้วชี้ ซึ่งเป็นนิ้วที่ใช้ในการเหนี่ยวไกปืนขาดสมดุลไป เนื่องจากลักษณะถุงมือที่ใหญ่ และหนา ทำให้การยิงในลักษณะปั้นศูนย์นั้นค่อนข้างทำได้ยาก ส่วนของ EOTAC รุ่น Duty glove นั้น เมื่อสวมใส่แล้ว จะรู้สึกกระชับกว่า ให้สัมผัสที่ปลายนิ้วดีกว่าของ Air Operation glove อย่างเห็นได้ชัด

ชุดครูฝึกนเรศวร ๒๖๑ ร่วมทดสอบด้วย

ผลการทดสอบ จากการยิงปืน 2 นัด ที่หลุดออกจากวงดำนั้น เกิดจากการใช้ถุงมือ Air Operation glove จากการประเมินแล้วพบว่า เกิดจากปัญหาเดียวกัน คือการลากไกของถุงมือที่หนา ทำให้การกะน้ำหนักระยะไกปืน เป็นไปได้ยาก เป็นเหตุให้เกิดการกระตุกไก ส่วนของ EOTAC รุ่น Duty glove ไม่พบปัญหาดังกล่าวเนื่องจากถุงมือไม่หนามาก ให้การสัมผัสระหว่างนิ้วและไกปืนได้ดีกว่ากันมาก

EOTAC : Duty Glove ถุงมือยิงปืนชนิดข้อสั้น / ถุงมือโรยตัว Air Operation glove

EOTAC : Duty Glove ถุงมือยิงปืนชนิดข้อสั้น / ถุงมือโรยตัว Air Operation glove

เมื่อทดสอบกับอาวุธปืนเล็กยาว กับอาวุธปืนลูกซอง

ถุงมือทั้งสองชนิดไม่แตกต่างกันมากมายนัก ให้กลุ่มกระสุนที่น่าพอใจ

การเลือกถุงมือยิงปืนที่เหมาะสม จะส่งผลกับความแม่นยำในการยิงปืน โดยเฉพาะในการยิงปืนพก ซึ่งแตกต่างจากการยิงปืนลูกซอง ซึ่งอาจไม่เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ดังนั้นถ้าคุณต้องการความแม่นยำยิ่งขึ้น ควรเลือกถุงมือยิงปืนที่ออกแบบเฉพาะงาน จะให้ผลงานที่น่าพอใจครับ

แม้ถุงมือดีแต่ขาดซึ่งการฝึกฝนและทักษะ ก็ไม่อาจช่วยให้การยิงปืนเกิดความแม่นยำได้

หากใช้ถุงมือไม่ดีแล้ว ทักษะและความแม่นยำที่ฝึกฝนมา ก็อาจไร้ความหมายได้เช่นกัน

ดังนั้นควรมีทั้งอุปกรณ์ที่ดีและทักษะที่ดีด้วย

Tags: ,

เมื่อ Ultra Flex III VS Alta Superflex

วันนี้ผมขอรีวิวสนับเข่า (Knee Pads) ซึ่งอาจจะเกิดมาจากแนวคิด ของการสนับสนุนเข่า ปะกับเข่า ซึ่งก็คือเครื่องป้องกัน และลดอาการบาดเจ็บ และความเมื่อยล้าที่เกิดกับหัวเข่า เนื่องจากการใช้เข่าอย่างสมบุกสมบัน

ธรรมชาติสร้างผิวหนัง เพื่อห่อหุ้มร่างกาย ในส่วนที่เป็นเข่าของเรา แท้จริงแล้วผิวหนังช่วงนี้จะบาง และแทบจะไม่มีชั้นไขมันเสริม เช่นเดียวกับส่วนอื่น จึงมีความเสี่ยงต่อการถูกกระแทก จากปัจจัยภายนอกอยู่ตลอดเวลา แถมเรายังใช้เข่าทุกวัน ตั้งแต่ตื่นยันหลับอีกด้วย ไม่ดูแลคงไม่ดีแน่ครับ

จากภาพประกอบจะเห็นได้ว่า เข่าเป็นเพียงองค์ประกอบ ของกระดูกขาชิ้นบนและล่าง ซึ่งมีกระดูกอ่อนหุ้มรองส่วนปลายที่เป็นข้อพับ และมีเอ็นยึดประสานกระดูกข้อเข้าด้วยกัน มีน้ำหล่อเลี้ยงข้อเข่าไม่ให้เกิดการเสียดสีหรืออักเสบ และมีกระดูกสะบ้า ที่เป็นก้อนนูนออกมาจากกระดูกอ่อนของกระดูกขาท่อนบน ช่วยให้เราสามารถขยับข้อพับ เพื่อใช้เดิน, วิ่ง, ขึ้นบันได, แกว่งเท้า ฯลฯ

หากคุณต้องทำกิจกรรมที่ต้องใช้เข่าราบลงกับพื้น, ยันพื้น, ชันเข่าเพื่อเตรียมพร้อม ควรป้องกันการกระแทกและถนอมข้อเข่า หรือกระดูกสะบ้า ด้วยการเลือกใช้สนับเข่า ที่ช่วยพยุงกล้ามเนื้อ และกระชับกับการเคลื่อนไหว ในทุกอิริยาบถ

โดยเฉพาะในงานเชิงยุทธวิธี เช่น การนั่งคุกเข่า การชันเข่ายิงปืน การโผเข้าหาที่กำบัง
การคลานเข่า ฯลฯ หากเป็นพื้นหญ้าหรือดินนิ่มๆก็ยังโชคดี แต่หากเป็นพื้นกรวดหรือหินแหลม บางครั้งมีเศษแก้ว, เสี้ยน หรือตะปู หัวเข่าของเราย่อม เกิดอาการบาดเจ็บตั้งแต่ถลอก จนถึงหัวเข่าแตก หรือกระดูกสะบ้าหลุดได้เลยทีเดียว หนำซ้ำอาจส่งผลกระทบกับการจบภารกิจโดยไม่จำเป็น

สนับเข่า Tactical Ultra Flex III ของ KP industries เป็นสนับเข่าที่คิดนอกกรอบ จากรูปลักษณ์เดิมๆ ด้วยการนำพลาสติกคุณภาพสูง 2 ชิ้น เชื่อมติดกันในแบบบานพับ ติดด้วยโฟมเนื้อละเอียดสำหรับกันกระแทก และแถบสายรัดเป็นแบบยางยืด พร้อมตัวล็อคเป็นแบบลักษณะ ตะขอพลาสติก ที่จำหน่ายมาในถุงตาข่าย พร้อมอะไหล่ตัวล็อค 1 ชิ้น

การทดสอบในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบ Tactical Ultra Flex III ของ KP industries กับ Knee Pad ของ Alta Superflex ซึ่งเป็นตัวแทนของ

สนับเข่า ในยุคปัจจุบัน ที่จะมีรูปทรงและระบบล็อคคล้ายคลึงกัน ทดสอบโดยการทำกิจกรรมต่างๆ ไปพร้อมกับการใส่สนับเข่าทั้ง 2 แบบ เพื่อทดสอบข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบครับ

การสวมใส่
ก่อนใส่ดึงการเกงให้ตึง ป้องกันการร่นลงของสนับเข่า จัดให้เท่ากันทั้ง 2 ข้าง ปรับสายรัดขาของ KP industries ซึ่งเป็นลักษณะยางยืดทั้ง 2 เส้น การใส่ก็เพียงแต่นำหัวล๊อคเข้าไปล๊อคตามปกติ ถึงแม้รูเกี่ยวจะเล็กไปซักนิด แต่ก็ไม่เป็นปัญหาครับ

ส่วนของ Alta สายรัดเป็น แบบยางยืดเหมือนกัน แต่เป็นยางยืดเพียงเส้นเดียวทางด้านบน การสวมใส่นั้นล็อคเข้าได้ง่ายกว่า

ทดสอบภาคสนาม

เริ่มจากการทดลองเดินเบาๆ ทดสอบความตึงของของทั้ง 2 แบบ ปรากฎว่า สนับเข่า Alta มีอาการตึงเล็กน้อย เพราะส่วนที่เป็นแผ่นไม่ได้มีการขยับตามข้อพับมากนัก จึงมีลักษณะกางเป็นปีกอย่างที่เห็น แต่สำหรับสนับเข่า KP จะไม่มีอาการตึงเกิดขึ้น เพราะสามารถงอตามการงอเข่าได้ แรงตึงจึงน้อยกว่า เมื่อทำการคุกเข่าอย่างฉับพลัน รู้สึกเจ็บทางด้านสนับ Alta เพราะมุมการงอเปลี่ยนจากเดิม ทำให้ต้องคอยปรับให้เข้าที่เข้าทาง แต่ทางด้าน KP ไม่ต้องปรับ

เมื่อลองคุกเข่าบนพื้นที่ต่างระดับกันอย่างเช่นบันได จะรู้สึกว่า Alta ไม่สามารถป้องกันหน้าแข้งได้ครับ เพราะความยาวของแผ่นกันกระแทก ไม่ได้ยาวพอ ถ้าเทียบกับฝัง KP

ต่อด้วยท่านอน ท่านอนราบไปกับพื้น ไม่ค่อยมีผลกับสนับเข่าทั้ง 2 แบบมากนัก (หลังจากนอนราบจนเกือบหลับ) ก็ต่อด้วยการกระโดดทิ้งน้ำหนักตัวแรงๆ สลับไปมากับการวิ่ง การสไลด์ อยู่ประมาณ 10 นาที ปรากฎว่าสนับเข่าของทาง ALTA มีการเลื่อนลงเยอะมาก จนต้องมีการปรับตำแหน่งใหม่อีกครั้ง เพื่อให้พร้อมกับการใช้งาน ซึ่งแตกต่างกับทาง KP ที่เลื่อนลงมาบ้าง แต่พร้อมทำงานต่อ โดยไม่ต้องมีการปรับตำแหน่งใหม่

สรุปผลการทดสอบ
ส่วนตัวผมคิดว่า ถึงแม้รูปลักษณ์ของสนับเข่า Tactical Ultra Flex III ของ KP industries จะมีหน้าตาออกแนวโบราณซักหน่อย ซึ่งจุดนี้น่าจะมาจากเหตุผลในการออกแบบ ซึ่งเน้นไปทางด้านการปกป้องหัวเข่าได้มากกว่า และพยายามลดความกังวล ที่จะต้องปรับตำแหน่งของสนับเข่า ให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลาในทุกอิริยาบท ผมว่าสนับเข่าของ KP ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้ดีทีเดียวครับ

สุดท้ายผู้ใช้ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเลือกรูปทรง ประโยชน์การใช้งาน และราคาที่พอใจอย่างไร ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ราคาพอๆกันทั้ง 2 แบบครับ ไว้วันหน้าผมจะลงทดสอบสนับเข่ารุ่นใหม่ของ Alta มาฝากนะครับ

Tags: , ,

“INFIDEL” Operator cap ล่าสุดจาก Tactical Tailor

Infidel เป็นคำเรียกผู้ไร้ศรัทธา หรือไม่อยู่ในศาสนาใดๆ หรือแปลว่า “นอกรีต” ในภาษาอิสลาม (อาราบิค) เขียนว่า Kafir ในภาษาอังกฤษมีความหมายว่า ผู้ปฏิเสธศาสนาหรือไม่นับถือศาสนา ไม่นับถือพระเจ้า ซึ่งอาจจะฟังดูไม่ค่อยลื่นหูซักเท่าไหร่ หลายคนมองว่าเป็นพวกหัวรุนแรงไปก็มี แต่ถ้าจะให้คิดอีกด้าน มันก็เหมือนคำที่มีไว้ประชดประชัน หรือเสียดสี อีกแง่หนึ่งคือการแสดงจุดยืนทางความคิด เป็น freethinker จากกลุ่มตรงข้ามที่มองว่า “INFIDEL” เป็นพวกคนนอกบ้าง คนสกปรกบ้าง และประกาศอิสระในแบบส่วนตัว อาจจะแปลได้ว่า “ข้าจะเป็นคนนอกน่ะ…มีไรอ่ะป่าว” ซึ่งในระยะหลังเป็นคำยอดฮิต สำหรับบรรดาทหารอเมริกันในสงครามตะวันออกกลาง บางคนสักลงบนร่างกายเลยก็มี

Tactical Tailor จึงออกแบบหมวก Operator cap แบบใหม่ล่าสุด หน้าหมวกปักภาษาอังกฤษด้วยตัว font สไตล์อาหรับ มาพร้อมกัับคำพูดสุดแรง “INFIDEL” ด้านบนยังคงเอกลักษณ์ด้วยการเย็บหมวกแบบเรียบ ไร้กระดุมบน แทนที่ด้วย Velcro (ตีนตุ๊กแก) ขนาด 1” X 1” สำหรับติดแผ่น IR ขนาดเล็ก สำหรับงานเชิงยุทธวิธี

ส่วนที่เป็นจุดเ่ด่นที่สุดในหมวกใบนี้ คือแถบ Velcro ขนาด 2” X 3.5” ที่มีตัวอักษรอาราบิค คำว่า INFIDEL ที่ด้านหลัง โดยที่หากเอาอาร์มหรือ patch แบบไหนมาติดก็จะมองไม่เห็น แต่เมื่อดึงออกก็จะเห็นคำว่า “INFIDEL” ชนิดที่ฝังลึกจากข้างใน ถอดยังไงก็ไม่ออก ทำให้จะติดเครื่องหมายหรือไม่ ก็ไม่ใช่ปัญหา (จริงๆแล้วด้านหลังไม่ต้องติด Patch ก็สวยดีครับ)  สายปรับขนาดด้านหลัง เป็นแถบ Velcro อีกเช่นเดียวกัน

ซึ่งเรานำมารีวิวก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หมวก “INFIDEL” Operator cap มี 4 สี คือ สีแทน/ทราย (Tan), สีเขียวมะกอก (OD Green), สีดำ (Black) และสีพราง Multicam

หมวกของ Tactical Tailor ทุกใบ Made in USA 100% อดใจรอกลางเดือนกรกฎาคมนี้ วางจำหน่ายพร้อมอเมริกาครับ สนใจสั่งซื้อสินค้าอื่นๆของ Tactical Tailor ได้ที่ Safe house ครับ

Tags:

Rite in the rain สมุดโน้ต ยอดทรหด

สมุดบันทึก Rite in the rain : Military

ผมเป็นคนนึงที่ชอบการเดินทาง และชอบบันทึกเรื่องราวที่พบเห็น ในกระเป๋าผมจึงมีอุปกรณ์หลากหลายที่ผมเลือกใช้เป็นอุปกรณ์ประจำตัว หนึ่งในสิ่งที่ผมต้องมี คือสมุดเล่มเล็กๆพร้อมปากกาดีดี ติดตัวผมไปทุกที่ ผมพบว่าหลายครั้งที่ไอเดียและความคิดที่สุดจะโดนใจ บางครั้งมันเล่นผ่านสมองไป เหมือนเสียงไอพ่นของเครื่องบินขับไล่…แล้วมันก็หายไปแบบเงียบๆ หรือแม้แต่ในบทสนทนาที่ออกรสชาติ คำบางคำที่อยากจะจำเอาไปบอกต่อ แต่ก็อีกนั่นแหละ หลายครั้งที่ผมพลาดการเก็บบันทึกสิ่งเหล่านั้นไปเฉยๆ บ่อยครั้งที่ผมกลับมานั่งนึกย้อนไปย้อนมาหลายตลบ แต่สมองอันเจริญวัยแล้วของผม ก็ไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้ บางครั้งเริ่มหงุดหงิดและรำคาญตัวเอง

ขนาดพร้อมซองพกพาสะดวก

ตั้งแต่นั่นมา ผมก็เริ่มมองหาสมุดโน้ตขนาดเหมาะมือ เขียนติดง่าย และอึดพอที่จะไปกับผมได้ทุกที่ ไม่เปื่อยหรือขาดง่าย จนมาประทับใจกับสมุด Rite in the rain เพราะขนาดกำลังดี ทำจากกระดาษรีไซเคิลและพลาสติก และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ หากนำไปฝังดินไว้ประมาณ 5 เดือน ส่วนเนื้อกระดาษเป็นแบบด้านและไม่สะท้อนแสง แต่ถึงแม้จะไม่ขาดง่ายก็สามารถเผาทำลายได้ปกติ จึงเหมาะกับงานภาคสนาม ซึ่งในกองทัพสหรัฐฯ เห็นความสำคัญของการจดบันทึกถึงขั้นเลือก Rite in the rain ให้กำลังพลมีใช้กันมานานแล้ว

เดี๋ยวนี้มีซองคอร์ดูร่าไนลอน ติดซิปรอบตัวและปากกา All weather pen ให้มาในชุดเดียวกัน ก็ยิ่งพกพาสะดวก

Rite in the rain package

วันนี้ผมจะรีวิวสมุดโน้ตเล่มนี้ให้ดูกันครับ เริ่มจากเปรียบเทียบกับกระดาษธรรมดา และฉีดละอองน้ำซึ่งแทนน้ำฝน ผลที่ได้คือกระดาษธรรมดา เปื่อยยุ่ยครับ แต่ rite in the rain ยังคงสภาพ ไม่เปื่อย ไม่ขาด ผมตั้งตากแดดไว้ 15 นาทีก็แห้งสนิท และนำมาใช้งานได้เหมือนเดิมครับ

ผมลองเขียนด้วยหมึกชนิดต่างๆ แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 10 วินาทีดูบ้าง ก็ปรากฏว่ากระดาษธรรมดาขาดและยุ่ยไปเลย ในขณะที่ rite in the rain เนื้อกระดาษไม่ซับน้ำ ยังอยู่ในสภาพปกติ มีแต่หมึกบางชนิด เช่น ปากกาไฮไลท์ และหมึกนิจิสีสด จางหายไปกับน้ำ เหลือแต่รอยดินสอ ปากกาลูกลื่น และปากกา permanent ที่ยังติดกระดาษ และอ่านได้ชัดเจน จากการใช้เวลาสั้นๆ 10 วินาที

ภายหลังจากจุ่มน้ำ ผมลองช่วยกันดึงเนื้อกระดาษ Rite in the rain แค่เพียงออกแรงให้กระดาษตึงดู ก็พบว่าเนื้อกระดาษเหนียวและไม่ยอมฉีกขาดง่าย ถ้าเป็นกระดาษธรรมดา ก็เปื่อยตั้งแต่จับขึ้นมาจากน้ำ และขาดจนไม่สามารถดึงทดสอบครับ

แม้ว่าราคาของ Rite in the rain จะแพงกว่าสมุดโน๊ตทั่วไป แต่หากเปรียบเทียบประสิทธิภาพที่ต่างกันแล้ว ผมคิดว่า Rite in the rain จะทนอยู่กับการเดินทางของผมได้ดีที่สุดครับ

เมื่อมีสมุดจดดีดีแล้ว คราวนี้ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ข้อความ และเรื่องราวประทับใจที่เข้ามาในชีวิต อยู่แต่ในความทรงจำ ผมจะบันทึกไว้เพื่อเล่าสู่กันฟัง ไม่ยอมให้ผ่านหู ผ่านตา แล้วก็ผ่านไป อีกแล้วครับ

Tags: